กระทรวงพลังงานติดตามการบริหารจัดการ LPG ภาคเหนือทั้งระบบ พบการลักลอบถังแอลพีจีไปเพื่อนบ้านลดลงหลังมีการเข้มงวดกฎหมาย และราคาในไทยมีการปรับให้สะท้อนต้นทุนจริง
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจกระบวนการบริหารจัดการด้านก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อรับทราบสถานการณ์ภาพรวมข้อมูลทั้งด้านการใช้ การผลิต รวมถึงการส่งออก LPG ไปประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกำกับให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยพบว่าการลักลอบส่งถังก๊าซ LPG ไปยังประเทศเพื่อนบ้านลดลง และถังก๊าซที่เคยหายไปจากระบบก็ลดลงตาม
“ขณะนี้การค้าชายแดนของ LPG มีรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยมีการจัดส่งเนื้อก๊าซไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และในประเทศเพื่อนบ้านก็ได้มีการลงทุนเปิดโรงบรรจุของตนเอง ทำให้ราคาถูกลงไม่ต่างกับราคาในประเทศไทยมากเช่นในอดีต ซึ่งส่วนหนึ่งมีการปรับราคาในประเทศไทยให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้นและมีการเข้มงวดการจับกุม ทำให้การลักลอบแอลพีจีแบบกองทัพมดเช่นที่ผ่านมาลดลง” นายณรงค์ชัยกล่าว
นอกจากนี้ยังตรวจติดตามระบบลอจิสติกต์ ตั้งแต่การจัดหาก๊าซ LPG ที่คลัง LPG ไปจนถึงกระบวนการขนส่งที่ป้อนมายังโรงบรรจุเพื่อจำหน่ายไปสู่ผู้ใช้ภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง โดยได้มอบนโยบายที่จะกำกับดูแลกระบวนการทั้งระบบไม่ให้มีจุดเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดการลักลอบค้าข้ามประเภทและลักลอบส่งออก ซึ่งจะมีการพิจารณาแนวทางการป้องกันให้มากขึ้น รวมทั้งยังกวดขันให้ ปตท.มีการดูแลชุมชนในเขตพื้นที่รอบๆ คลังก๊าซ ซึ่งคลัง LPG บางแห่งกลายเป็นคลังที่มีชุมชนขยายมาล้อมรอบ แต่อย่างไรก็ดี จะได้กำชับให้ดูแลและกวดขันเรื่องการดูแลมาตรฐานความปลอดภัยเป็นพิเศษ
สำหรับภาพรวมเฉลี่ยความต้องการใช้ LPG ของทุกจังหวัดภาคเหนืออยู่ที่ 40,202 ตัน/เดือน ลดลงจากปีก่อน 2% และโดยภาพรวมการใช้ LPG ของทั้งประเทศกลับเข้าสู่สภาวะที่ควรจะเป็น โดยการใช้ LPG ผิดประเภทและการค้าข้ามประเภท รวมทั้งการลักลอบส่งออกได้ลดลงไปอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ อีกทั้งการนำเข้า LPG ก็ลดลงประมาณ 50% จากเกือบ 168,000 ตัน/เดือน เหลือเพียงไม่ถึง 100,000 ตัน/เดือนเท่านั้น