xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีชูดูแลนักท่องเที่ยวได้มาตรฐาน ย้ำรถบริการปลอดภัยไร้เสี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีย้ำมาตรฐานการดูแลนักท่องเที่ยวดีเยี่ยมเกิน 100% นำตรวจสภาพรถบริการนักท่องเที่ยว ยืนยันปลอดภัยไร้ปัญหา เผยล่าสุดเพิ่งมีการเปลี่ยนนำรถรุ่นใหม่มาให้บริการประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม พร้อมคุมเข้มตรวจสอบทั้งคนขับและสภาพรถทั้งก่อนและหลังการใช้งาน

วันนี้ (8 ก.ค.) ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นายศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) นำเจ้าหน้าที่ตรวจความพร้อมและสภาพรถให้บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้าใช้บริการเที่ยวชม รวมทั้งเพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงมาตรฐานการดูแลนักท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการรับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหรือรางวัลกินรี

นายศราวุฒิกล่าวว่า ปัจจุบันนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีรถบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรถแบบลากพ่วงเปิดโล่งขนาด 50 ที่นั่ง รวม 36 คัน โดยในจำนวนนี้เป็นรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มนำเข้ามาใช้ 17 คัน ส่วนรถที่เหลือเตรียมปลดระวางหลังใช้งานมา 10 ปีแล้ว ในส่วนของความปลอดภัยยืนยันว่ารถทุกคันมีความปลอดภัย 100% โดยมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาทุกระบบของรถ ทั้งระบบเครื่องยนต์ เบรก โช้กอัพ เป็นต้น เป็นประจำทุกวัน และตามวงรอบการบำรุงรักษา โดยช่างผู้ชำนาญทั้งของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และบริษัทที่เป็นผู้ต่อรถ ซึ่งหากพบความผิดปกติใดๆ จะงดใช้งานเพื่อทำการตรวจสอบบำรุงรักษาซ่อมแซมทันที

ขณะที่ในส่วนของคนขับรถให้บริการนักท่องเที่ยวนั้น นอกจากการคัดเลือกคนอย่างละเอียดเพื่อให้ได้คนที่มีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ในแต่ละวันจะมีการตรวจสอบความพร้อมสภาพร่างกายของคนขับด้วย หากไม่พร้อมก็จะให้เปลี่ยนคนทำหน้าที่แทนทันที

สำหรับรถรุ่นใหม่ที่ใช้ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ในปัจจุบัน 17 คัน เป็นรถที่ใช้งานจริง 15 คัน อีก 2 คันใช้เป็นรถสำรองในกรณีที่รถใช้งานจริงเกิดปัญหา หรือว่าจำนวนรถไม่เพียงพอให้บริการนักท่องเที่ยว โดยรถรุ่นใหม่มีการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานเพิ่มขึ้นในหลายส่วน ทั้งราวกั้นป้องกันเด็กพลัดหล่น บันไดที่กว้างขึ้น รวมทั้งทางขึ้นลงและพื้นที่จอดรถเข็นบนรถสำหรับคนพิการ ขณะที่สมรรถนะของเครื่องยนต์ก็มีการเพิ่มกำลังขับเคลื่อนขึ้นด้วยเพื่อรองรับการลากพ่วง และระบบการเชื่อมต่อระหว่างพ่วงก็มีการพัฒนาให้รองรับแรงกระแทก และความยืดหยุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย พร้อมกันนี้ยังมีการจำกัดความเร็วรถไว้ไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเปิดบริการมาก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงมาตรฐานความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี




กำลังโหลดความคิดเห็น