ศรีสะเกษ - สุดเวทนา! เด็กหญิง 3 พี่น้องชายแดนศรีสะเกษ แม่ติดคุกความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ต้องอยู่กันลำพังไร้ผู้ใหญ่ดูแล อาศัยรับจ้างและขอข้าวชาวบ้านรวมทั้งวัดกินประทังชีวิต ขณะน้องสาวคนรองป่วยเป็นโรคโลหิตจางทาลัสซีเมียไม่มีเงินไปพบแพทย์นานกว่า 1 ปีแล้ว หวั่นเกิดอันตรายแก่เด็กหญิง วอนหน่วยงานรัฐและผู้ใจบุญช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 261 ม.1 บ้านนาตราว ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ รองประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายกิตติชัย เหลาสิงห์ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์ เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ น.ส.พรอนันต์ บุญเลิศ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาตรวจสอบและหาแนวทางช่วยเหลือ
หลังรับทราบว่ามีเด็กหญิงจำนวน 3 คนถูกทิ้งให้อยู่กันตามลำพังเนื่องจากแม่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ เพราะกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยถูกจำคุกมานานกว่า 1 ปีแล้ว เมื่อไปถึงพบเด็กหญิงจำนวน 3 คนนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ทราบชื่อคือ ด.ญ.วิภา มะณีรัตน์ หรือน้องเบียร์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) โรงเรียนบ้านนาตราว เป็นพี่สาวคนโต ด.ญ.นิตยา มะณีรัตน์ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนเดียวกัน พี่สาวคนรอง และ ด.ญ.นุชธิดา มะณีรัตน์ อายุ 4 ขวบ ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเป็นน้องสาวคนเล็ก
ดร.กัลยาณี และคณะได้สำรวจดูภายในบริเวณบ้านพบว่าสภาพบ้านค่อนข้างเก่ามาก ไม่มั่นคงแข็งแรง และเด็กหญิงทั้ง 3 คนอยู่กันตามลำพัง โดย ด.ญ.วิภา หรือน้องเบียร์ กำลังเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ส่วน ด.ญ.นิตยาป่วยเป็นโรคโลหิตจางทาลัสซีเมียอย่างรุนแรงไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อเปลี่ยนถ่ายเลือดมานานกว่า 1 ปีแล้ว
โดย ดร.กัลยาณีได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินสดจำนวนหนึ่งมอบแก่เด็กหญิงทั้ง 3 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยเช่นกัน
ด.ญ.วิภา มะณีรัตน์ หรือน้องเบียร์ อายุ 12 ปี เล่าด้วยน้ำเสียงปนเศร้าว่า แม่ของตน คือ นางราตรี มะณีรัตน์ อายุ 30 ปี ได้ถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ เพราะนั่งรถไปกับเพื่อนชายที่เป็นคนขับรถบรรทุกไม้พะยูง ทำให้ตนกับน้องไม่มีคนดูแลมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งตนต้องรับจ้างทั่วไปเพื่อหาเงินมาใช้ซื้อข้าวและอาหารเลี้ยงน้องทั้งสองคน และในวันที่ตนกับน้องคนกลางไปเรียนหนังสือก็ต้องนำน้องคนเล็กไปอยู่ที่โรงเรียนด้วยเนื่องจากหากปล่อยไว้คนเดียวเกรงว่าจะเป็นอันตรายได้
เมื่อกลับมาบ้านตนกับน้องต้องช่วยทำงานบ้าน หาอาหารให้ตนกับน้องกิน และอาศัยช่วงเวลาหลังเลิกเรียนไปรับจ้างตามบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อหาเงินมาซื้อข้าวกิน ไม่มีเวลาที่จะทำการบ้านที่ครูให้มาทำเนื่องจากต้องรับภาระทุกอย่างแทนแม่ วันใดที่ไม่มีข้าวกินก็จะไปขอข้าวและอาหารจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งชาวบ้านได้ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอดเพราะสงสารที่แม่ต้องติดคุกและต้องดูแลน้องเล็กๆ ตามลำพัง
ส่วนน้องที่ป่วยเป็นโรคโลหิตจางทาลัสซีเมียนั้นไม่มีเงินที่จะไปหาหมอมานานแล้ว เพราะแม้แต่เงินจะซื้อข้าวกินก็ยังไม่มี และวันใดที่วัดมีการจัดงานก็จะไปขอข้าวจากหลวงพ่อที่วัดมากินกับน้องประทังชีวิตให้พ้นไปวันๆ เท่านั้น
นายกิตติชัย เหลาสิงห์ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์ เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ทราบเรื่องนี้จากนางราตรี ว่าลูกสาวเล็กๆ ทั้ง 3 คนไม่มีคนคอยดูแลต้องปล่อยให้อาศัยอยู่ตามยถากรรม จึงได้รายงานเรื่องนี้ให้นายธีระ รักษาประเสริฐกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับทราบ และได้มอบหมายให้ตนและคณะมาทำการตรวจสอบเพื่อหาแนวทางให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งได้ประสานงานกับ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมหาแนวทางให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วย
ทั้งนี้ นางราตรี แม่ของเด็กทั้ง 3 คน กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ได้ถูกศาลพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี และได้ถูกคุมขังมานานประมาณ 1 ปีแล้ว เหลือคุมขังประมาณ 5-6 เดือน โดยหลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วจะได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้ท่านผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษทราบเพื่อพิจารณาหาแนวทางให้การช่วยเหลือเด็กทั้ง 3 คนต่อไป
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ รองประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพความเป็นอยู่ของเด็กทั้ง 3 คนน่าเวทนาเป็นอย่างมาก ที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ทั้ง 3 คนต้องอาศัยอยู่กันตามลำพังไม่มีแม่คอยดูแล ไปหารับจ้างหาเงินมาซื้ออาหาร และบางครั้งต้องไปขอทานข้าวจากเพื่อนบ้านมาให้ตัวเองและน้องสาวเล็กๆ กินเป็นอาหาร
อีกทั้งสภาพบ้านก็ไม่มั่นคงแข็งแรงเกรงว่าอาจเกิดอันตรายทางเพศแก่เด็กทั้ง 3 คนได้ จึงขอฝากวิงวอนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ทุกท่านในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และคุณแม่ของลูกทุกคนทั่วประเทศได้มาช่วยกันให้การช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 3 คนนี้ด้วย
หากท่านใดมีจิตศรัทธาต้องการให้การช่วยเหลือเด็กทั้ง 3 คนเพื่อเป็นการร่วมกันทำบุญน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญโดยการส่งเงินตามแต่ศรัทธาทางไปรษณีย์ธนาณัติไปที่ ด.ญ.วิภา มะณีรัตน์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านนาตราว ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อจะได้เป็นการช่วยยืดชีวิตของเด็กทั้ง 3 คนให้อยู่รอดไปได้จนกว่าแม่ของเด็กจะพ้นโทษมาดูแลลูกสาวต่อไป