ไกด์เชียงรายฮือด้วย! ต้านต่างชาติแย่งอาชีพ ชี้วันนี้คนล้น-ท่องเที่ยวทรุด

เชียงราย - กลุ่มมัคคุเทศก์เมืองพ่อขุนฯ รวมตัวต้านกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เปิดทางขึ้นทะเบียนไกด์ต่างชาติ ชี้ทำไกด์ไทยทั่วประเทศที่มีกว่าครึ่งแสนตกงานกันระนาวแน่ บอกทุกวันนี้คนล้น แย่งงานกันเองไม่พอ ยังมีปัญหาโลว์ซีซัน ต้องนั่งตบยุงกันนานร่วม 7 เดือนต่อปีอยู่แล้ว

วันนี้ (26 มิ.ย.) นางณัฐพัชมณ ศรีพิทักษ์สกล นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงราย พร้อมมัคคุเทศก์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประมาณ 30 คน ได้ไปรวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนมัคคุเทศก์ต่างชาติเข้าสู่ระบบการท่องเที่ยวของประเทศไทย

กลุ่มมัคคุเทศก์ดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนในท้องถิ่นที่นำนักท่องเที่ยวเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ถือป้ายระบุข้อความไม่เห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนไกด์ต่างชาติ และกราบไหว้ขอพรจากอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ก่อนเดินทางไปยังศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อยื่นหนังสือต่อ น.ส.ปราณปริยา พลเยี่ยม รักษาการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย

โดยระบุว่า กรณีสำนักทะเบียนและธุรกิจนำเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเปิดโอกาสให้มัคคุเทศก์ต่างชาติสามารถขึ้นทะเบียนทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น บรรดามัคคุเทศก์ใน จ.เชียงรายไม่เห็นด้วย เพราะมัคคุเทศก์เป็นหนึ่งใน 39 อาชีพสงวนของคนไทย

นางณัฐพัชมณกล่าวเสริมว่า นโยบายของสำนักทะเบียนและธุรกิจนำเที่ยวดังกล่าวปรากฏให้เห็นเมื่อราวเดือน เม.ย. 58 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ต่างไม่เห็นด้วย เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันการท่องเที่ยวก็ดูซบเซาจนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพนี้ในประเทศไทยอยู่แล้ว

นอกจากนี้ สมาคมฯ เห็นว่าปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเป็นมัคคุเทศก์เฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงรายกว่า 1,400 คน และทั่วประเทศมีมัคคุเทศก์ที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่า 52,900 คน รวมทั้งยังอยู่ระหว่างการยื่นขอจดทะเบียนเป็นมัคคุเทศก์เพิ่มเติมอีกกว่า 27,230 คน ซึ่งจำนวนดังกล่าวถือว่ามีปริมาณมากจนล้นเหลือ และยังต้องแข่งขันกันเองอีก นี่ยังไม่รวมนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาออกมาทำงานเป็นมัคคุเทศก์ปีละมหาศาลด้วย

นางณัฐพัชมณกล่าวอีกว่า กรณีหน่วยงานภาครัฐให้เหตุผลว่ามัคคุเทศก์ไทยที่มีอยู่มีไม่เพียงพอ และไม่มีคุณภาพนั้น พวกเราเห็นว่า ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้เป็นผู้ที่ทางหน่วยงานภาครัฐได้ออกใบอนุญาตประกอบอาชีพให้ทั้งนั้น แต่ละคนผ่านการศึกษามาแล้วอย่างน้อย 4 ปี ผ่านการอบรมเป็นมัคคุเทศก์ตามระเบียบของทางราชการก่อนรับใบอนุญาตประกอบอาชีพ

ดังนั้น การระบุว่าพวกเราไม่มีคุณภาพจึงไม่ถูกต้อง และหากมีข้อขัดข้องบ้าง ทางภาครัฐก็สามารถจัดการอบรมหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เช่น ในปี 2557 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยกว่า 4 ล้านคน ส่งผลทำให้ขาดแคลนมัคคุเทศก์ภาษาจีน ทางภาครัฐก็สามารถจัดการอบรมเพิ่มเติมมาได้ เป็นต้น

“หากอนุญาตให้ไกด์ต่างชาติเข้ามาเพิ่ม ก็จะทำให้คนไทยที่เป็นไกด์อยู่แล้วเดือดร้อนกันมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ก็ต้องแข่งขันกันอย่างหนัก และเจอปัญหาเรื่องโลว์ซีซันอีก โดยปีหนึ่งจะมีฤดูท่องเที่ยวในฤดูหนาวประมาณ 5 เดือน ที่เหลืออีก 7 เดือนก็ต้องไปหาอาชีพเสริมทำ ซึ่งตรงจุดนี้พวกเราก็ยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรเลย หากปล่อยให้มีไกด์ต่างชาติเข้ามาอีกคงตกงานกันมากขึ้นแน่นอน” นางณัฐพชมณกล่าว

ต่อมา น.ส.ปราณปริยาได้เข้ารับหนังสือจากกลุ่มมัคคุเทศก์ และรับปากจะนำหนังสือยื่นไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ได้รับทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป พร้อมกันนั้นจะจัดการประชุมสัมมนาเร่งด่วนเพื่อระดมสมองมัคคุเทศก์และตัวแทนหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวต่อไป