ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านตำบลเขาไม้แก้ว ร้อง คสช.ตรวจปัญหาหน่วยงานรัฐร่วมนายทุนออกเอกสารสิทธิในเขตป่าสงวนกว่า 4,000 ไร่ ด้านคณะรองปลัดยุติธรรมลงพื้นที่ตรวจสอบพบพิรุธ เตรียมชงเรื่องเสนอส่วนกลางเอาผิด
วันนี้ (19 มิ.ย.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาที่ดินในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ที่ 5 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจาก นายกฤษดา รี้ห่างไพร อายุ 42 ปี ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านในหมู่บ้านสร้างรกรากปักฐานอาชีพทำไร่ในเนื้อที่รวม 3,810 ไร่ ว่า ที่ผ่านมา ที่ดินผืนนี้ถูกนายทุนเข้ามาครอบครองพื้นที่โดยออกเอกสารสิทธิ น.ส.3.ก. ทับที่ดินทำกินของชาวบ้านโดยมิชอบ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ที่ดินดังกล่าวชาวบ้านปลูกที่พักอาศัย และทำการเกษตรมาตั้งแต่อดีต จนภาครัฐประกาศให้พื้นที่นี้เป็นเขตป่าสงวนก่อนจะออกเอกสาร ภบท.5 ให้ชาวบ้านกว่า 400 หลังคาเรือน ในที่ดินกว่า 3,810 ไร่ ไว้ทำกินโดยไม่มีสิทธิซื้อขาย
แต่ปรากฏว่า มีกลุ่มนายทุนบุกรุกเข้าแผ้วถาง พร้อมแจ้งให้ทราบว่ามีเอกสารสิทธิ น.ส.3.ก.ครอบครองอย่างถูกต้อง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการออกเอกสารสิทธิทับสิทธิครอบครองของชาวบ้านเดิมซึ่งไม่ถูกต้อง โดยเรื่องนี้จะได้ทำรายงานข้อเท็จจริงเสนอปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมกับจะได้ทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่กรมที่ดินว่า มีความผิดหรือไม่อย่างไร หากพบมีความผิดจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทางด้าน นายธนพิสิษฐ์ ฉั่วบันลือ ตัวแทนบริษัท พอร์ตแลนด์กรุ๊ป ในเครือ บริษัท วรกิจ ก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อต้นปี พ.ศ.2556 ได้มาซื้อที่ดิน จำนวน 293 ไร่ บริเวณหมู่ 1 ตำบลเขาไม้แก้ว จากบริษัท เอสเค แลนด์แอนเฮาส์ จำกัด ในราคา 147 ล้านบาท และได้จ่ายเงินเบื้องต้นไปจำนวน 55 ล้านบาท
ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2557 ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการพัฒนาที่ดิน และได้ไปติดต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง จึงทราบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ป่าสงวนจึงติดต่อกลับไปยังบริษัท เอสเค แลนด์แอนเฮาส์ จำกัด เพื่อขอเงินคืน แต่ได้รับการปฏิเสธจึงแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ นางบุญรอด บุญประจำ อายุ 74 ปี เปิดเผยว่า อาศัยอยู่ในที่ดินแห่งนี้มาตั้งแต่เกิดจนกระทั่งมีลูกหลานเข้ามาทำไร่หาเลี้ยงชีพ โดยมีที่กินประมาณ 200 ไร่ ต่อมา ทราบว่ามีนายทุนเข้ามาครอบครองในเนื้อที่ที่ครอบครอบจึงพยายามร้องเรียนมาหลายปีแต่ไม่เป็นผล
จนกระทั่งยุค คสช.จึงมั่นใจว่าน่าจะตรวจสอบบริษัทนายทุนว่าออกสิทธิทับที่ป่าสงวนได้อย่างไร พร้อมกับขอร้องเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ได้พักอาศัยทำมาหากินบนที่ดินดังกล่าวต่อไป