อ่างทอง - ชาวนาที่เช่านาเขาทำกว่า 50% ในเมืองอ่างทองช้ำหนัก จ่ายเงินค่าเช่าที่นาแล้วแต่กลับไม่ได้ทำนา หลังจากต้องประสบต่อวิกฤตปัญหาภัยแล้ง แถมกรมชลประทานยังชะลอการจ่ายน้ำทำนา ทำให้หมดโอกาสทำนาในปีนี้ ขณะที่หนี้สินกลับพอกพูนเพิ่มขึ้น จนบางรายแทบไม่มีค่าใช่จ่ายในครัวเรือน
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายทรงพล พูลสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันในจังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่ทำนาอยู่ประมาณ 370,000 ไร่ ในจำนวนนี้มีเกษตรกรเช่าที่ทำนาปลูกข้าวประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของที่ทำนาทั้งหมด และขณะนี้มีชาวนาบางส่วนต้องจ่ายค่าเช่าทำนาทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำนาสักครั้ง หลังจากทางรัฐบาลได้ประกาศให้หยุดทำนาในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และประกาศให้วันที่ 1 พฤษภาคมได้ทำนา
จากประกาศดังกล่าวทำให้ชาวนาต่างดีใจที่จะได้ทำนา จนมีชาวนาหลายรายได้ลงมือปักดำทำนาไปแล้ว แต่ก็ดีใจได้เพียงไม่เท่าไร ทางกรมชลประทานก็ได้ออกมาประกาศให้ชาวนาชะลอการทำนาไปเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมอีก จึงทำให้ชาวนาที่ลงมือปักดำไปแล้วต้องมาประสบต่อปัญหาขาดแคลนน้ำในการหล่อเลี้ยงต้นข้าวอีก ซึ่งขณะนี้ชาวนาหลายรายเครียดมาก เนื่องจากกลัวต้นข้าวจะได้รับความเสียหาย ส่วนชาวนาที่ยังไม่ได้ทำนาก็ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไรจะได้ลงทำนา และช่วงที่รอการทำนาอยู่นี้ทางหนี้สินที่เป็นอยู่กับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็ต้องชำระ
“ชาวนาเขาทำนากันเพียงอย่างเดียวไม่มีอาชีพอื่น แล้วจะให้ไปหาเงินจากไหนมาผ่อนชำระหนี้สิน ธ.ก.ส. อย่าว่าแต่หนี้สินไม่มีจ่าย ธ.ก.ส.เลย แม้แต่ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวบางคนก็ยังไม่มี เนื่องจากชาวนาไม่มีเงินเดือนนอกจากการขายผลผลิตเพียงอย่างเดียว ยิ่งชาวนาที่ไปเช่านาเขามาทำด้วยยิ่งเครียดหนัก เนื่องจากจ่ายเงินค่าเช่าที่นาไปแล้วแต่กลับไม่ได้ทำนา จึงทำให้เป้นหนี้เพิ่มมากขึ้น” ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอ่างทอง กล่าว
นายมนัส แสงหิรัญ อายุ 54 ปี ชาวนาบ้านเลขที่ 33 หมู่ 3 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนเช่าที่ทำนา จำนวน 7.2 ไร่ ตอนนี้ได้จ่ายค่าเช่าที่นาราคาไร่ละ 700 บาทไปแล้ว เนื่องจากในต้นปีที่ผ่านมา ทางชลประทานประกาศหยุดจ่ายน้ำทำนา และมาจ่ายน้ำให้ทำนาอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม และเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางกรมชลประทานได้ประกาศอีกครั้งขอให้ชาวนาชะลอการทำนาออกไปช่วงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากน้ำต้นทุนเหลือน้อย จึงทำให้ตนคงไม่ได้ทำนาแล้วในปีนี้
“เนื่องจากพื้นที่นาเช่าของผมเป็นแอ่งกระทะราบลุ่มเสี่ยงต่อการน้ำท่วมเสียหายในฤดูน้ำหลาก จึงทำให้ในปีนี้ผมหมดโอกาสในการทำนาไปโดยปริยาย ทำให้ปีนี้ผมต้องเสียค่าเช่าที่นาไปฟรีๆ และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ไปกู้เงินมาลงทุนในการทำนา และค่าใช้จ่ายในครัวเรือนค่าน้ำค่าไฟฟ้าด้วย” นายมนัส กล่าว
นางวิเชียร วรโภชน์ อายุ 49 ปี ชาวนาบ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 3 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนทำนาเช่า จำนวน 60 ไร่ ตอนนี้ได้ลงมือหว่านข้าวทำนาไปแล้ว ที่ผ่านมาตนต้องเจาะบ่อบาดาลสูบน้ำขึ้นมาทำนา แต่ก็ต้องพบต่อความขาดทุน และเป็นหนี้เพิ่มเนื่องจากผลผลิตลดจำนวนลง อีกทั้งราคาข้าวก็ถูกลง ทำให้ในช่วงนี้ต้องค้างค่าเช่าที่ทำนาเนื่องจากไม่มีเงินไปจ่ายเจ้าของที่นา และเงินทุนที่ทำนาครั้งต่อไปก็ไม่มี
“ตอนนี้หลังจากมาทราบว่า ทางกรมชลประทานได้ประกาศขอให้ชะลอการทำนาออกไปอีกก็ทำให้ตนเครียดมาก เนื่องจากไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร ไหนจะต้องหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่นา และหาเงินมาจ่ายหนี้สินพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีเงินมาจ่ายเลย นอกจากนี้ ยังจะต้องหาเงินมาจ่ายค่าเรียนของลูก รวมทั้งค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวอีก” นางวิเชียร กล่าว
