ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่สั่งเฝ้าระวังไวรัสเมอร์ส มีการตั้งจุดสกัดและคัดกรองในพื้นที่ท่าอากาศยาน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างประเทศเกาหลีใต้และตะวันออกกลาง พร้อมสั่งทุกโรงพยาบาลเตรียมอุปกรณ์รับมือให้พร้อม
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงการณ์เฝ้าระวังผู้ป่วยไวรัสเมอร์สในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า จากสถานการณ์ของผู้ป่วยไวรัสเมอร์สในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงเช้าได้มีการประกาศผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วมีอยู่ทั้งหมด 154 ราย เสียชีวิต 19 รายและกักตัวไว้อีก 5,000 คน ซึ่งจากการวินิจฉัยถือว่าผู้ป่วยในประเทศเกาหลีใต้จะเป็นผู้ป่วยในระยะที่ 4
สำหรับนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยมีประมาณเดือนละ 1 แสนคนและคนไทยที่ไปเที่ยวเกาหลีใต้มีประมาณเดือนละ 40,000 คน และนักท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ที่บินตรงมายังจังหวัดเชียงใหม่เฉลี่ยวันละ 200-300 คน ดังนั้น ทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมตัวในการรับมือและเฝ้าระวังป้องกันผู้ป่วยไวรัสเมอร์สจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่
โดยเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้จัดประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อซักซ้อมให้เข้าใจถึงมาตรการในการรับมือผู้ป่วย และการรับมือที่ดีที่สุดตอนนี้คือ การวินิจฉัยโรคที่รวดเร็วและเตรียมความพร้อมของผู้ปฏิบัติงานเมื่อพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายการติดเชื้อ โดยวิธีการสอบถามประวัติโดยละเอียด และแยกผู้ที่ป่วยอยู่ในสถานที่ปลอดเชื้อเพื่อเฝ้าระวังการแพร่เชื้อ และสอบถามหาบุคคลที่เคยสัมผัสหรือใกล้ชิดเพื่อที่จะได้พาตัวบุคคลเหล่านั้นมาตรวจวินิจฉัยโรคต่อไป
สำหรับการวินิจฉัยเบื้องต้นกับผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสเมอร์สตอนนี้คือจะดูจากประวัติการเดินทางที่มาจากประเทศเกาหลีใต้และในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง, บุคคลที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส และบุคคลที่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น มีอาการไอ, จาม, หอบ
“การเฝ้าระวังผู้ป่วยนั้นจะเข้มงวดเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศเกาหลีและประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยจะดูอุณหภูมิของร่างกายหากเกิน 38 องศาก็จะถูกกักตัวไว้ทันที หรือมีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไอ, จาม, หอบ และที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยที่เข้าข่ายแล้ว 2 ราย แต่จากผลการตรวจของทั้ง 2 รายพบว่าเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่ธรรมดาเพียงเท่านั้น”
ดร.สุรสิงห์กล่าวว่า การที่ไปตั้งจุดตรวจที่ท่าอากาศยานนั้นมีโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อน้อยมาก เพราะเมื่อผู้ป่วยอยู่บนเครื่องหรือสถานที่ที่มีอากาศเย็นร่างกายก็จะปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิรอบข้าง ทำให้การสแกนหาผู้ติดเชื้อเป็นไปได้ยากมาก
“การรับมือและเฝ้าระวังในจังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลเตรียมอุปกรณ์และตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยให้ครบทุกขั้นตอนตามหลักการแพทย์ และสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ บุคลากรที่เข้าไปสัมผัสกับตัวผู้ป่วยโดยตรงซึ่งจะต้องระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อ เช่น แพทย์ที่เข้าไปตรวจผู้ติดเชื้อซึ่งตัวแพทย์เองอาจจะเป็นคนที่นำเชื้อไปติดยังผู้ป่วยคนอื่นๆ ได้”