นครพนม - พ่อเมืองโร่แจงคดี “ยายบังอร” ชี้สิ้นสุดแล้ว หลังศาลพิพากษาให้ชดใช้เจ้าหนี้ บังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินค้ำประกัน มีเอกสารหลักฐานกู้ยืมถูกต้อง เผยศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบให้ความช่วยเหลือทุกรายหากถูกเอาเปรียบ พบบางรายฉวยโอกาสร้องทุกข์หวังเลี่ยงหนี้
วันนี้ (5 มิ.ย. 58) นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากกรณีการร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมของนางบังอร ค่ำคูณ อายุ 86 ปี ชาวบ้านหนองญาติ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ที่ตกเป็นข่าวภายหลังการเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เคยออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงดีเอสไอ และศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่ปี 2554
โดยอ้างว่าได้นำ น.ส. 3 จำนวน 1 ไร่ 1 งาน ริมถนนนครพนม-สกลนคร เขตที่บ้านภูเขาทอง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ไปจดจำนองเพื่อประกันหนี้กับนายทุนรายหนึ่ง เป็นเงินรวมประมาณ 2 แสนบาท เมื่อปี 2540 แต่ภายหลังถูกฟ้องร้องคดีจากนายทุน เนื่องจากไม่นำเงินไปชำระหนี้ตามกำหนด ทำให้เงินต้นบวกดอกเบี้ยเพิ่ม รวมประมาณ 4 ล้านบาท จนถึงปี 2544 ศาลได้พิพากษาตัดสินให้ชดใช้หนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 4 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
ทำให้มีการไกล่เกลี่ยคดีมาต่อเนื่อง แต่ไม่มีเงินไปชำระหนี้ ในที่สุดต้องถูกบังคับคดี ฟ้องร้องขับไล่ออกจากที่ดิน และบ้านพักอาศัย พร้อมกับขายทอดตลาดในราคาประมาณ 1.3 ล้านบาท ในปี 2553 ทำให้มีนายทุนมาซื้อจากกรมบังคับคดี ก่อสร้างอาคารประกอบธุรกิจค้าขาย ขณะที่นางบังอรยังคงหาทางร้องทุกข์จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมกับลูกหนี้อีกหลายรายว่าถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่เป็นผล เพราะนายทุนมีเอกสารหลักฐานถูกต้องตามกฎหมาย และสิ้นสุดคดีจากการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมในที่สุด
ขณะเดียวกัน ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ได้ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทุกรายที่เคยมาร้องทุกข์ ซึ่งจะตรวจสอบช่วยเหลือเป็นกรณีไป โดยหากพบว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจริงจะประสานงานนำเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ รวมถึงให้สถาบันการเงินของรัฐเข้ามาช่วยเหลือหากเข้าเกณฑ์ แต่บางรายต้องยอมรับว่ายินยอมไปกู้ยืมเงินจากนายทุนที่เซ็นสัญญาถูกต้องตามกฎหมายแต่ผิดชำระหนี้ จึงฉวยโอกาสมาร้องเรียนภาครัฐหวังเลี่ยงการใช้หนี้ ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่สามารถจะช่วยเหลือได้
ทางจังหวัดนครพนมให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับลูกหนี้นอกระบบ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน แต่ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงไม่บิดเบือนข้อมูล ส่วนคดีของรายใดที่สิ้นสุดจากการตัดสินของกระบวนการยุติธรรม ทางจังหวัดนครพนมจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเพราะถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว จึงขอฝากเตือนไปยังประชาชนว่า หากมีปัญหาเรื่องการเงินควรปรึกษาสถาบันการเงินภาครัฐ หรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อนายทุนเงินกู้นอกระบบ หากยินยอมเซ็นเอกสารตามกฎหมาย ทั้งที่รู้ว่าคิดดอกเบี้ยเกินจริง จะมาเรียกร้องภายหลังนั้นไม่สามารถช่วยเหลือได้