อุดรธานี - ตำรวจ ปคส. บุกจับแม่ค้าขายเนื้อหมาที่ ต.บ้านผือ พร้อมยึดของกลางเนื้อหมาชำแหละแล้วเกือบ 50 กิโลฯ สารภาพทำมาแต่พ่อแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ยาวนานกว่า 50 ปี เผยให้ผัวตระเวนหาซื้อ หรือใช้กระติ๊กน้ำแลกแล้วนำมาชำแหละขายหน้าบ้าน คนนิยมซื้อไปประกอบอาหาร
วันนี้ (31 พ.ค.) พ.ต.ท.รัชพล นามปัตลา สวป. ร.ต.ท.ละม้าย สกลพิทักษ์ รอง สวป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการค้าสัตว์ข้ามชาติ ภาค 4 (ปคส.) เข้าควบคุมตัวนางกรรณิการ์ เหลาแก้ว อายุ 26 ปี อยู่ 166 ม.11 บ.ภูทอง ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางสุนัขชำแหละแล้ว น้ำหนักประมาณ 42 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกะละมังพลาสติกสีดำ
โดยกล่าวหาว่า กระทำการค้าสัตว์ หรือซากสัตว์ (สุนัข) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มาตรา 21 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ.2557
ร.ต.ท.ละม้าย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวได้แอบลักลอบชำแหละเนื้อสุนัขขาย และจำหน่าย จากนั้นจึงได้ประสานกำลังลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้านผือ ทำการตรวจค้นที่บ้านดังกล่าว และจากการตรวจค้น พบ นางกรรณิการ์ กำลังทำการชำแหลสุนัข เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนต่อยัง สภ.บ้านผือ
นางกรรณิการ์ ผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ครอบครัวของตนมีอาชีพชำแหละสุนัขขายมากว่า 50 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ โดยสามีของตนจะเป็นคนออกไปหาซื้อสุนัขในราคาตัวละ 100 บาท หรือเอากระติกน้ำแข็งไปแลกในพื้นที่ใกล้เคียงกับอำเภอบ้านผือ โดยแต่ละสัปดาห์ก็จะทำการชำแหละขายครั้งละ 4-6 ตัว โดยจะวางขายที่หน้าบ้าน ราคากิโลกรัมละ 100 บาท ทั้งเครื่องในและส่วนอื่นๆ ลูกค้าที่รู้จักก็จะมาซื้อ
สำหรับการฆ่าสุนัขนั้น นางกรรณิการ์ บอกว่า จะใช้เหล็กทุบหัว พร้อมกับยอมรับว่าทราบเรื่องการออกพระราชบัญญัติการทารุณสัตว์ที่ออกมาเมื่อปี พ.ศ.2557 ซึ่งตนและครอบครัวก็หยุดการชำแหละสุนัขขายไประยะหนึ่ง แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นช่วงสงกรานต์มีลูกหลานมาถามหากันมาก จึงกลับมาทำการชำแหละสุนัขขายอกครั้ง ซึ่งก็ขายดีมาก จึงทำการชำแหละมาเรื่อยมา
ด้าน นายวรวุฒิ โภคาพาณิชย์ ปศุสัตว์อำเภอบ้านผือ เปิดเผยว่า สำหรับการชำแหละสุนัขขายนั้นเป็นเรื่องของการเสี่ยงอันตรายจากโรคที่มาจากสุนัขหลายโรค ที่ร้ายแรงมากที่สุดคือ โรคพิษสุนัขบ้า ที่สามารถติดได้จากสุนัขทั้งที่ตาย แล้วและมีชีวิตอยู่ สามารถติดต่อได้ทางน้ำลาย และอื่นๆและสามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ทั้งทางบาดแผล ทางเล็บ และทางการกินเนื้อสุนัข
จากนี้ต่อไปทางสำนักงานปศุสัตว์ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยออกทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ทำการชำแหละสนัขขายให้เลิกทำการชำแหละสุนัขขาย เพราะมีความผิดทั้งกฎหมายเก่า และ พ.ร.บ.ใหม่ที่ออกมาใช้บังคับแล้ว ที่มีโทษถึงติดคุก ส่วนการทำลายซากสุนัขของกลางในคดีดังกล่าวจะต้องรีบนำเอาไปกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ด้วยการขุดหลุมฝัง