เชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ตำรวจสันป่าตองบุกจับพ่อค้าสุนัขชาวเชียงใหม่คาบ้าน พบรับซื้อสุนัขตัวละ 200 บาท บางครั้งเอาสุนัขที่ถูกรถชนมาชำแหละ เร่ขายทั้งเชียงใหม่-ลำพูน กก.ละ 50 บาท บอกหน้าหนาวขายดีจนมีไม่พอ เพราะคนเชื่อกินเนื้อสุนัขช่วยคลายหนาว
เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมนายนิคม ไชยชมชื่น อายุ 54 ปี พ่อค้าจำหน่ายเนื้อสุนัขในบ้าน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา(8 ม.ค.) พร้อมของกลางอุปกรณ์ในการชำแหละเนื้อสุนัข ทั้งมีด เขียง ถังใส่เนื้อสุนัข เชือกที่ใช้ขัดคอ ไม้คานยาวเกือบ 2 เมตร ที่ใช้ขึงเพื่อถลกหนัง และสุนัขสีน้ำตาลอีก 1 ตัวที่ถูกขังในกรง
เบื้องต้นแจ้งข้อหานำสัตว์มาเตรียมชำแหละเพื่อบริโภค เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ มีโทษปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือโทษจำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ซื้อสุนัขจากชาวบ้านตัวละ 200 บาท หรือบางครั้งมีชาวบ้านนำสุนัขที่ถูกรถชนตายมาให้ชำแหละเพื่อนำไปขายกิโลกรัมละ 50 บาท โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนขายไปตามหมู่บ้านทั้งในเขตเชียงใหม่และลำพูน ซึ่งในช่วงหน้าหนาวชาวบ้านจะนิยมรับประทานเนื้อสุนัขเพราะเชื่อว่าทำให้ร่างกายอบอุ่น จนขายดิบขายดีแบบไม่พอขาย สร้างรายได้เป็นอย่างดี และทำมานานหลายปี แต่เมื่อถูกจับกุมได้ก็รู้สึกอายและจะเลิกอาชีพนี้
พ.ต.ท.จักรียุทธ โชติวชิระพงศ์ สว.สภ.สันป่าตอง กล่าวว่า การจับกุมมีขึ้นหลังพบมีการนำภาพสุนัขที่ถูกทารุณกรรมมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก รวมทั้งเนื้อสุนัขที่ปรุงเป็นเมนูอาหาร ทั้งแกงอ่อม เนื้อทอด เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตาม จนกระทั่งพบต้นตอที่เป็นลูกค้าของผู้ต้องหาเป็นผู้นำภาพมาโพสต์ จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผล และรับว่าซื้อเนื้อสุนัขมาจากผู้ต้องหาในราคา 100 บาทนำมาปรุงอาหารรับประทาน จนกระทั่งพาเจ้าหน้าที่ไปจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้าน
นายสุรเดช สมิเปรม ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การนำสุนัขมาชำแหละ หากทำไม่ถูกวิธีถือว่ามีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค หรือสุนัขที่นำมาชำแหละมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ายิ่งอันตราย หากได้รับเชื้ออาจทำให้เสียชีวิตได้ ประกอบกับเป็นเรื่องผิดกฎหมายด้วย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงหรืองดรับประทาน เพราะความเชื่อที่ว่าทำให้ร่างกายอบอุ่นเป็นความเชื่อที่ผิด สำหรับสุนัขของกลางจะนำไปดูแลที่ด่านกักสัตว์เชียงใหม่ต่อไป