xs
xsm
sm
md
lg

ลูกสาวเหยื่อเรือประมงเกาะเบนจินาวอน นอภ.เมืองกาญจน์ช่วยตามหาพ่ออีกหลังกลับไทยแล้วแต่ยังไร้วี่แวว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ลูกสาวเหยื่อเรือประมงเกาะเบนจินา อินโดนีเชีย เข้าพบนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ให้ช่วยตามหาพ่ออีกครั้งหลังขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย แต่ปัจจุบันยังไร้วี่แววไม่เห็นหน้าพ่อ

วันนี้ (29 พ.ค.) น.ส.นิสารัตน์ บุญเลิศ หรือโบว์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี พนักงานสาวร้านสเวนเซ่นส์ สาขาโลตัส กาญจนบุรี ได้เข้าพบ นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่ที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมกับนำภาพถ่ายของพ่อมามอบให้

น.ส.นิสารัตน์ บุญเลิศ หรือน้องโบว์ เปิดเผยว่า พ่อของตนคือ นายมงคล บุญเลิศ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ก่อนหน้านั้นพ่อทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และได้ลาพักเพื่อกลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังครบกำหนดวันที่ 21 ก.ค.57 พ่อบอกต่อตนว่า จะกลับไปทำงานที่อู่ตามเดิม ภายหลังทางอู่ซ่อมรถได้ติดต่อมาหาตนเพื่อตามให้พ่อกลับไปทำงาน ซึ่งตนก็ตอบไปว่าพ่อกลับไปทำงานหลายวันแล้ว จากการพูดคุยกันไปมาจนมั่นใจว่าพ่อของตนได้หายตัวไปโดยไม่ทราบว่าหายไปอยู่ที่ไหน ตนจึงออกติดตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ

จึงตัดสินนำภาพถ่ายขณะที่ตนกำลังกอดพ่อโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อหวังว่าจะมีคนพบเห็น แต่ก็ไร้วี่แวว ภายหลังพ่อโทรศัพท์มาหาตนบอกเพียงว่า ทำงานอยู่ในเรือประมงที่ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนจึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้ช่วยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยออกติดตามหาอีกทางหนึ่ง

จนกระทั่งล่าสุด วันที่ 25 พ.ค.58 ตนเห็นภาพของพ่อทางรายการทีวีชื่อดังช่องหนึ่งออกอากาศคืนวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พบพ่อเดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย พร้อมกับเพื่อนคนงาน จำนวน 29 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทั้งหมดมาลงเครื่องที่สนามดอนเมือง โดยมีหน่วยงานภาครัฐคอยอำนวยความสะดวก และให้การช่วยเหลือ ซึ่งตนจำหน้าพ่อได้อย่างแม่นยำ เพราะช่างภาพได้ถ่ายใบหน้าของพ่อมองเห็นได้อย่างเด่นชัด

จากนั้นพ่อกับเพื่อนคนงานได้ขึ้นรถยนต์ตู้ไปที่บ้านไมตรีจิตร ดินแดง ตามรายละเอียดข่าวที่ปรากฏ ซึ่งตนดีใจเป็นอย่างมากที่พ่อกำลังจะเดินทางกลับบ้านมาพบหน้าลูกที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่ปรากฏว่า จนถึงวันนี้พ่อก็ยังไม่กลับมา ตนก็ได้เฝ้ารออยู่ทุกวันด้วยความเป็นห่วงพ่อ ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี อีกครั้งหนึ่ง

นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวของผู้ที่หายตัวไป เดินทางมาร้องทุกที่อำเภอเมือง เราได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้รายงานไปตามขั้นตอนผ่านจังหวัด ไปจนถึงกรมการปกครอง ซึ่งเรื่องนี้ไปถึงตำรวจ ปคม.เราเฝ้าติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด จนกระทั่งพบว่า นายมงคล พ่อของ น.ส.นิสารัตน์ ที่ออกข่าวทางทีวีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ น.ส.นิสารัตน์ กล่าวเอาไว้ข้างต้น ซึ่งกรมการปกครอง ก็ทราบมาก่อนแล้วว่าเจอตัวแล้ว

แต่ปรากฏว่า วันนี้ลูกสาวได้มาพบตน และแจ้งให้ทราบว่าพ่อยังไม่ได้กลับบ้าน และไม่สามารถติดต่อได้อีก ทางอำเภอจึงได้ประสานไปที่จังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่ง ให้ช่วยประสานไปที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ติดตามดูว่า นายมงคล บุญเลิศ พ่อของ น.ส.นิสารัตน์ ปัจจุบันไปอยู่ที่ไหน ซึ่งทางอำเภอจะทำการเร่งรัดติดตามเรื่องการหายตัวของนายมงคล ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายสุวิทย์ มากแก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงว่า มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่า พบชายวัยกลางคนเดินอยู่ภายในตลาดสดเทศบาล ให้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวเพิ่งเดินทางมาจากเกาะเบนจินา ประเทศอินโดนีเซีย และเป็นคนงานของเรือประมงที่เพิ่งเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงสั่งการให้นายสุวิทย์ ไปเชิญตัวมาสอบถามข้อเท็จจริงที่ที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี ทราบชื่อต่อมาคือ นายเสก โกนรัมย์ หรือเสก อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 21 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์

เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวของนายมงคล ที่หายตัวไป พร้อมทั้งนำภาพถ่ายให้ดู ซึ่งนายเสก จำได้ว่าเคยทำงานอยู่ด้วยกันบนเรือประมง อีกทั้งยังเคยนั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกัน นายเสก ยังให้ข้อมูลอีกว่า นายมงคล ได้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนตน เชื่อว่าคงไปอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้จดบันทึกไว้อย่างละเอียด

นายเสก ได้เล่าเหตุการณ์ก่อนเดินทางไปทำงานบนเรือประมงว่า ก่อนที่จะลงเรือประมงไปประเทศอินโดนีเซีย เดิมทีตนเป็นคนงานตัดอ้อยอยู่ในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย จากนั้นได้ดื่มสุราจนเมา และได้ขึ้นรถโดยสารไปจนถึงสุขุมวิท ซอย 101 และมีรถแท็กซี่มาจอดถามตนว่า ต้องการไปทำงานหรือไม่ ตนจึงตอบว่าไป

แต่คนขับแท็กซี่ไม่ได้บอกว่าไปทำงานอะไร และได้ไปเจอคนชื่อ ป้อม บอกจะให้ไปลงเรือจับปลาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตนจึงยอม แต่ปรากฏว่า เรือลำดังกล่าวที่ชื่อสิริพร 326 ได้พาไปจนถึงเกาะเบนจินา ประเทศอินโดนีเซีย ขณะอยู่บนเรือประมงมีหน้าที่คัดปลา ลงอวน บางวันทำตลอด 24 ชั่วโมง ข้าวมื้อเช้า และเที่ยงก็ไม่ได้กิน จะได้กินก็ต่อเมื่อคัดปลาหมดแล้ว สำหรับค่าจ้างจะได้รับทุก 15 วัน ครั้งละ 300,000 รูเปีย คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 บาท บางวันได้เงินมาก็ซื้อเหล้าที่ผสมยาฆ่าแมลงดื่ม

ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย นายจ้างหักค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินเดินทางกลับเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท และค่าหัวคิวอีก 25,000 บาท เหลือเงินติดตัว 8,000 บาท และได้จ่ายค่ารถแท็กซี่ รวมทั้งค่ารถยนต์โดยสารเดินทางมาจังหวัดกาญจนบุรี เกือบหมด เหลือติดตัวอีกไม่กี่บาท และเมื่อไปหาเถ้าแก่ไร่อ้อยที่อำเภอบ่อพลอย เพื่อของานทำ แต่เถ้าแก่ไม่รับ จึงตัดสินใจจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ไม่มีเงินค่ารถ เมื่อลงรถรถยนต์โดยสารที่ขนส่ง ก็เดินถามทางไปเรื่อยเพื่อไปที่สำนักงานแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี แต่ก็มาพบกับเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองกาญจน์เสียก่อน

รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตัว นายมงคล พ่อของ น.ส.นิสารัตน์ บุญเลิศ หรือน้องโบว์ แล้วเสร็จ นายศรัทธา คชพลายุกต์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.ที่เข้าเวรจัดหาที่นอนให้แก่ นายเสก จนกระทั้งรุ่งเช้า จากนั้นได้นำตัวนายเสก ไปขึ้นรถยน์โดยสารที่สถานีรถขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเดินทางกลับจังบุรีรัมย์ พร้อมทั้งมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางอีกด้วย

นายมงคล บุญเลิศ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี


กำลังโหลดความคิดเห็น