กาญจนบุรี - ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารงานการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง พร้อมคณะกรรมการลงพื้นที่กาญจน์ สอบ 11 ผู้ถูกกล่าวหา “ขบวนการปลอมแปลงบัตรบุคคลประเภท 0 กลุ่ม 89” หลัง นอภ.เมืองกาญจน์หอบหลักฐานกว่า 5 พันหน้า แจ้งตำรวจพบมีการสวมบัตร ปชช.ให้ต่างด้าว โดยเรียกสอบทีละคนนานคนละ 2 ชม. พบเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางมีเอี่ยวด้วย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (17 ก.พ.) นายวิโรจน์ ศรีสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารงานการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง พร้อมคณะกรรมการเดินทางมาที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.58 นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสรธร บ่อเกิด ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร ได้นำเอกสาร 5,000 หน้า เข้าพบ พ.ต.อ.นคร พักไพโรจน์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษขบวนการปลอมแปลงบัตรประจำตัวของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบุคคลประเภท 0 กลุ่ม 89
โดยมีปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) จำนวน 6 ราย อดีตกำนัน 1 ราย ผู้ใหญ่บ้าน 2 ราย พลเรือน จำนวน 6 ราย และบุคคลต่างด้าว จำนวน 421 คน
โดยวันนี้ได้มีการนัดบุคคลที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนทั้งหมด 11 คน โดยมีการเรียกสอบทีละคนใช้เวลาสอบสวนประมาณคนละ 2 ชั่วโมง ซึ่งคณะกรรมการได้เรียก นายประสาน นิยมทรัพย์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) กาญจนบุรี อดีตกำนันตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปสอบสวนเป็นคนแรก คาดว่าการสอบปากคำทั้ง 11 คนในครั้งนี้คงจะถึงกลางดึกกว่าจะแล้วเสร็จ
นายประสาน นิยมทรัพย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า วันนี้ได้มาให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกรมการปกครองจากส่วนกลาง ซึ่งคณะกรรมการก็สอบถามในประเด็นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ตนก็ให้การไปตามข้อเท็จจริงทั้งหมด
“สำหรับข้อกล่าวหาที่ผมไม่ได้ประพฤติ ผมก็ปฏิเสธไป ซึ่งการสอบสวนครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ส่วนกลางโดยตรง ซึ่งประเด็นตรงนี้ผมไม่ทราบเพราะผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ส่วนกลางอยู่แล้ว เพราะขณะนั้นเราเป็นกำนัน เรามีหน้าที่สำรวจบอกเพื่อนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยกันสำรวจเพื่อจะได้นำแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมาย จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง และหลังจากที่ตนเกษียณจากกำนัน ตนก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอีก”
ด้าน นายวิโรจน์ ศรีสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้เพื่อดำเนินการกรณีที่ปรากฏมีข่าวทางสื่อว่ามีการทุจริตทางทะเบียนมีการแก้ไขชื่อของผู้ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี และมีการพาดพิงไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ส่วนกลางว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ดังนั้น กรมการปกครอง โดยอธิบดีกรมการปกครอง จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีมูลความจริงมากน้อยเพียงใด และในวันนี้ได้มาสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง 11 ราย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป