ผู้ว่าฯ อุบลฯ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี ขรก.พัวพันโกงซื้อยาฆ่าแมลงหลายร้อยล้าน

อุบลราชธานี - ผู้ว่าฯ เมืองดอกบัวพร้อมแจ้งความดำเนินคดีต่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตสั่งซื้อยาปราบศัตรูพืชระหว่างปี 2554-55 แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือสั่งการใดๆ จากกระทรวงมหาดไทย สำหรับข้าราชการระดับใหญ่ที่มีส่วนพัวพันส่วนใหญ่เกษียณอายุราชการ หรือไม่ก็ถูกโยกย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นแล้ว

ตามที่การประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมามีมติปลด นายสมพงษ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ฐานความผิดตามที่ สตง.ชี้มูลกรณีการทุจริตการใช้งบประมาณเงินทดรองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน และการใช้งบประมาณยาปราบศัตรูพืชช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เมื่อปี 2554-2555 ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นอกจากนี้ยังพบมีข้าราชการรายอื่นซึ่งอยู่ในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานอีกหลายคน

ล่าสุด นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นยังไม่รับหนังสือสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย หากมีหนังสือสั่งการปลดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตมาถึงจะทำการปรับเกลี่ยเจ้าหน้าที่คนอื่นเข้าไปทำงานแทน และหากมีหนังสือมอบอำนาจจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้จังหวัดเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริต ก็จะมอบให้คณะทำงานไปแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าพนักงานสอบสวนทันที ส่วนการดำเนินการด้านวินัยข้าราชการ เป็นอำนาจของกระทรวงจะสั่งการมาให้ดำเนินการอย่างไร

สำหรับการฟ้องร้องทางละเมิด ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่งก็เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายละเอียด จะดำเนินการฟ้องร้องข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร

ขณะที่มูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นทยอยรับแจ้งเป็นหนังสือมาจาก สตง.มาเป็นระยะ คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท กระจายอยู่ในหลายอำเภอ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สรุปตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

พร้อมทั้ง สตง.เองก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น มีเพียงหนังสือแจ้งว่ามีการทำความผิดด้านการทุจริตการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชมาให้เท่านั้น ซึ่งจังหวัดก็ได้ทำเรื่องขอทราบรายละเอียด แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับการทุจริตที่เกิดขึ้นในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสมัยนั้นส่วนใหญ่เกษียณอายุราชการหรือไม่ก็ถูกโยกย้ายไปรับราชการอยู่ในจังหวัดอื่นหรือประจำกระทรวง เหลือเจ้าหน้าที่ระดับล่างไม่กี่คนที่ยังรับราชการอยู่ แต่ทั้งหมด ป.ป.ช. และ สตง.ยังไม่ชี้มูลความผิดชัดเจน