ชาวปากช่องฮือค้านสร้างมอเตอร์เวย์โคราช-บางปะอิน ลั่นถึงตายก็ไม่ย้ายออก

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวปากช่องฮือค้านโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์โคราช-บางปะอิน ชี้ทำผิดขั้นตอน ไม่ถามชาวบ้านที่มีส่วนได้เสีย ระบุชาวบ้านค้านมานานกว่า 10 ปีผ่านมา 5 รัฐบาลไม่เคยได้รับการเหลียวแล กระทั่งรัฐบาลทหารยังเดินหน้าสร้างถนนเอื้อประโยชน์นายทุนโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่มานานกว่า 60 ปี ยันไม่ย้ายออกจากพื้นที่ขอสู้ทุกวิถีทาง

วันนี้ (28 พ.ค.) นายลออ ศาลา แกนนำกลุ่มชาวปากช่อง ผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างมอเตอร์เวย์ เปิดเผยว่า กลุ่มชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา หรือมอเตอร์เวย์ ระยะทางประมาณ 196 กม. ได้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ทราบว่ารัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามเดินหน้าผลักดันโครงการดังกล่าวให้สำเร็จ และมติ ครม.ล่าสุดได้พิจารณาอนุมัติโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายดังกล่าวด้วย

ซึ่งชาวบ้านมีความกังวลใจจึงต้องออกมาเคลื่อนไหวขอคัดค้านมติ ครม.ที่อนุมัติให้ก่อสร้าง เนื่องจากได้ทำผิดขั้นตอนในการก่อสร้างโครงการมาตั้งแต่ต้น เช่น การทำประชามติที่มิชอบ หรือผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่ได้กระทำต่อชาวบ้าน ผู้มีส่วนได้-เสีย และการออก พ.ร.บ.เวนคืนที่ดิน ไม่ได้เข้ามาสอบถามชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ อ้างแต่เพียงว่าการจราจรหนาแน่นและความเจริญของประเทศที่จะเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน

“เป็นข้ออ้างที่เป็นเท็จทั้งสิ้นเพราะการจราจรหนาแน่นเฉพาะช่วงเทศกาลซึ่งปีหนึ่งมีไม่กี่ครั้ง และข้ออ้างเพื่อความเจริญของประเทศนั้นก็ไม่จริงเพราะเส้นทางนี้มาลงพื้นที่ของนักลงทุนที่มาลงทุนในปากช่องเป็นประเด็นหลัก” นายลออกล่าว และว่า

ถนนสายนี้ชาวปากช่องได้คัดค้านมาตั้งแต่เริ่มมีโครงการมานับสิบปีแล้ว เคยเสนอให้ทำการก่อสร้างไปตามเส้นทางสายพุแค-ด่านขุนทด ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ผ่านชุมชนหนาแน่น เป็นทุ่งนา ไม่เสียค่าเวนคืนแพง หรือมิฉะนั้นให้ก่อสร้างโดยยกระดับคร่อมถนนมิตรภาพเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อชาวบ้านดั้งเดิม ที่หักล้างถางพงมากว่า 50-60 ปี จนเป็นพื้นที่ที่เจริญแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้มีอำนาจแต่อย่างใด ผ่านมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 รัฐบาลจนถึงปัจจุบันก็ยังคงมีความเห็นว่าการก่อสร้างถนนเส้นนี้ต้องคู่ขนานมากับถนนมิตรภาพเดิม

นายลออกล่าวอีกว่า เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลชุดนี้สร้างถนนเส้นนี้ขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่นักลงทุนที่มาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอำเภอปากช่อง โดยปล้นทรัพย์สิน ที่ดินของชาวบ้านยากจนไปบำรุงบำเรอความสุข ผลประโยชน์ของนักลงทุนและเศรษฐีมีเงิน ซึ่งที่ดินของชาวบ้านต้องถูกเวนคืนในราคาประเมิน แต่ที่ดินที่นักลงทุนกว้านซื้อกักตุนไว้มีราคาไร่ละไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ชาวบ้านถูกปล้นทรัพย์สินที่ดินไปโดยการสนับสนุนของรัฐบาล

หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า รัฐบาลรับใช้นายทุน ไม่ใช่รับใช้ประชาชน ถือว่าเป็นการขับไล่ชาวบ้านที่อยู่กันมานานให้สิ้นเนื้อประดาตัว แต่เศรษฐี นายทุนยิ่งร่ำรวยขึ้นไป จากการขายที่ดิน คอนโดมิเนียม อสังหาริมทรัพย์ ที่วางแผนการตลาดมาอย่างแยบยลผลักดันให้ชาวบ้านหรือประชาชนต้องออกจากพื้นที่ไป หากจะคงอยู่ในพื้นที่ต่อไปก็ต้องอยู่ในสภาพของคนรับใช้ ไม่ต่างอะไรจากการเป็นทาส

“พวกเราเป็นชาวบ้าน เป็นพลเมืองของประเทศนี้ เราควรจะมีสิทธิในทรัพย์สินที่เรามีและหามาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนทางสังคมพวกเราทำมาหากินในชุมชนตามอัตภาพมาเป็นเวลาช้านานมาก พวกเราทุ่มเทหยาดเหงื่อ เลือดเนื้อ แรงกาย แรงใจ กว่าจะได้ที่ดินมาเป็นทรัพย์สินต้องใช้ความเพียรพยายามมากมายเหลือเกิน มีนายทุนมาขอซื้อ พวกเราก็ไม่ยอมขาย” นายลออกล่าว และยืนยันอีกว่า

พวกตนอยากจะอยู่ตรงนี้ต่อไป เป็นที่ดินมรดกตกทอดถึงลูกหลานนานเท่านาน พวกตนต้องการเป็นคนปากช่อง ไม่อยากเป็นคนถิ่นอื่นในพื้นที่ใหม่ จะไม่ยอมย้ายจากพื้นที่นี้เด็ดขาด จะต่อสู้ทุกวิถีทางในการรักษาทรัพย์สมบัติที่พวกตนกว่าจะหามาได้ จะไม่ยอมถอย หนีไปไหนแม้จนตัวตายก็ตาม ฉะนั้นจึงต้องการร้องขอให้ยกเลิกมติ ครม. เพื่อก่อสร้างถนนสายนี้ เพราะเป็นถนนคนรวยใช้อำนวยความสะดวก เอื้อผลประโยชน์แก่เศรษฐีนายทุนใหญ่เท่านั้น