เมืองพัทยาถกเครียดปัญหาจราจร หลังเตรียมปิดสุขุมวิทกลางเดือน มิ.ย.นี้

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาถกเครียดปัญหาการจราจรโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกพัทยากลาง หลังผู้รับเหมาแจงเตรียมปิดสุขุมวิท กลางเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อวางระบบท่อบำบัดน้ำเสีย

นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายปกรณ์ สุคนธชาติ ปลัดเมืองพัทยา ประชุมร่วมกับตัวแทนจาก กรมทางหลวงชนบท เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองพัทยา บางละมุง หนองปรือ และ หจก.นภาก่อสร้าง เพื่อร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนสุขุมวิท และพื้นที่ใกล้เคียง จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกพัทยากลาง

โดยเฉพาะกรณีที่ได้รับแจ้งจากทางผู้ดำเนินโครงการว่า มีแผนปิดการจราจรบนถนนสุขุมวิททั้ง 2 ฝั่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 15 สิงหาคมศกนี้ เพื่อรองรับการวางท่อระบายน้ำในโครงการบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา

ตัวแทนจาก หจก.นภาก่อสร้าง เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการได้เริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง และจำเป็นต้องปรับผิวเส้นทางการจราจรบนถนนสุขุมวิท ช่วงปากทางพัทยากลางใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อโครงการ จึงส่งผลต่อสภาพช่องทางการจราจรมีความคับแคบลงทั้งขาไปและขากลับเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งก็ส่งผลให้การจราจรจะคับคั่งอย่างมากในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้สนธิกำลังในการลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สัญจรอย่างต่อเนื่อง และก็พบว่าสามารถบรรเทาปัญหาไปได้ระดับหนึ่ง แต่ด้วยปัจจุบันบริเวณริมถนนสุขุมวิทช่วงหน้าโรงเรียนเมืองพัทยา 5 ได้มีการขุดเจาะผิวจราจรขนาด 2 เลน เพื่อวางระบบท่อระบายน้ำใต้ดินในโครงการบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร ไปตามแนวถนนในระยะประมาณ 600-700 เมตร จากช่วงปากทางพัทยากลาง ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ไปจนถึง 30 มิถุนายนนี้ ทางโครงการมีความจำเป็นที่จะต้องขุดเจาะผิวถนนสุขุมวิทเพิ่มเติมทางฝั่งขาเข้าชลบุรีทั้ง 4 เลนเพื่อวางระบบท่อดังกล่าวข้ามฝั่งถนนจากฝั่งตะวันออก ไปตะวันตกเพื่อต่อเชื่อมท่อเข้าสู่ระบบบำบัดของเมืองพัทยาในซอยหนองใหญ่ ขณะที่ในระหว่างวันที่ 1-15 กรกฎาคม ก็จำเป็นต้องปิดการจราจรบนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าสัตหีบ เพื่อเดินระบบให้มีความต่อเนื่องกัน

โดยทั้ง 2 ช่วงเวลานี้จะมีการจัดทำทางเบี่ยงขนาดความกว้าง 2 เลน ระหว่างปากซอยสุขุมวิท 36/1-40 เพื่อให้รถสามารถแล่นผ่านได้ แต่ด้วยความที่จำนวนช่องการเดินรถจะลดลงซึ่งไม่สอด คล้องต่อการสัญจรก็อาจจะผลกระทบต่อความคับคั่งบนถนนได้

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพปัญหาการจราจรก็ถือว่ามีความแออัดอยู่แล้ว ทั้งสองฝั่งถนน เนื่องจากช่องทางการเดินรถถูกปรับลดขนาดลงจนถนนมีลักษณะเป็นคอขวด อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องของรถบัสขนาดใหญ่ รถโดยสารประจำทาง และประชาชนบางส่วนที่จอดรถรับส่งคนในที่ห้ามจนทำให้ปริมาณรถสะสม โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนคือ เช้า และเย็น

ขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่เองไม่สามารถรองรับการอำนวยความสะดวกได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากต้องจัดกำลังไปแก้ไขปัญหาการจราจรภายในถนนเลียบทางรถไฟบริเวณจุดตัดหลัก อย่างซอยหนองใหญ่ สยามคันทรีคลับ เนินพลับหวาน เขาน้อย และเขาตาโล จึงต้องมีการขอความร่วมมือจากเมืองพัทยา และหน่วยงานข้างเคียงในการสนับสนุนกำลังเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาด้วย รวมทั้งโครงการเองก็ต้องจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนทั้งพื้นที่ห้ามจอดรถ และเรื่องของเส้นทางการเดินรถ

ด้าน นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัญหาการจราจรถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีแต่เพียงประชาชนเท่านั้น ยังส่งผลไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้วย และในเร็ววันนี้ตามแผนของโครงการก็จะมีการปิดการจราจรบนถนนสุขุมวิททั้ง 2 ด้าน ซึ่งกินระยะเวลานานนับ 1-2 เดือน ปัญหายิ่งเกิดขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายเมืองพัทยาก็จะลงไปดำเนินการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งด้านการประชาสัมพันธ์แก่สาธารณะ การประสานงานระหว่างหน่วยงาน การสนับสนุนในด้านของกำลังพล และงบประมาณ เพื่อให้งานสามารถลุล่วงไปได้ และไม่เกิดผลกระทบต่อภาพรวมมากนัก อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาคสังคมมีความเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องจัดทำ ซึ่งหากแล้วเสร็จก็จะเกิดผลดีต่ออนาคต