ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ถกแก้ปัญหาจราจร หวั่นรถทัวร์ยึดชายหาด รองนายกเผยรัฐเล็งสร้างท่าเรือเฟอร์รี่เชื่อมพัทยา-หัวหิน
วันนี้ (14 พ.ค.) การประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ประจำเดือนพฤษภาคม 2558 ที่โรงแรมแกรนด์โซเล่ พัทยา จ.ชลบุรี ที่มีนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเป็นประธานนั้น ในที่ประชุมได้มีการเสนอวาระเรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจรทางบก และทางน้ำบริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยา โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมนำเสนอข้อมูล ทั้งตัวแทนจากเมืองพัทยา และกรมเจ้าท่า
ในวาระดังกล่าวให้ความสำคัญในการประกอบการของกลุ่มรถบัสโดยสารที่ขนส่งนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองพัทยา แต่ไม่มีการกำหนดจุดจอดรถที่ชัดเจน แต่กลับใช้พื้นที่ริมถนนโดยเฉพาะบริเวณชายหาดเป็นที่พักรถ หรือรับส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งกรณีนี้ส่งผลให้การจราจรบางช่วงเกิดปัญหาอย่างหนัก และถือว่าหมักหมมมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวมองว่าหากไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจังอาจเป็นปัญหาที่ยากเกินเยียวยา เพราะสถานการณ์การเติบโตด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยามีมากขึ้นโดยตลอด
เบื้องต้น ได้มีการนำเสนอแนวคิดเพื่อแก้ไขปัญหาใน 2 ระยะ คือ ระยะสั้น ทางสมาคมจะมีการพูดคุยขอความร่วมมือต่อทางบริษัททัวร์ท่องเที่ยวที่มาใช้บริการจอดรถริมหาดพัทยา ให้พิจารณากำหนดหาที่จอดรถใหม่ ซึ่งอาจมองไปถึงการหาพื้นที่จอดรถโดยสารที่เป็นส่วนกลางมีมาตรฐานมารองรับ ขณะที่ในระยะยาวก็ได้เร่งรัดให้เมืองพัทยา ทำการเปิดใช้อาคารจอดรถ-จอดเรือที่เสร็จสมบูรณ์อย่างเต็มรูปแบบ โดยจัดทำระบบขนส่งมวลชนควบคู่กันไปด้วย ซึ่งหากมีความชัดเจนจนเป็นรูปธรรมเชื่อว่าจะช่วยให้ปัญหานี้ทุเลาเบาบางลงได้
ด้าน นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เผยด้วยว่า ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่ากรกระทรวงคมนาคม และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวต่อแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงระบบคมนาคมในระดับประเทศนั้น มีกรณีหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และมีแผนการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมคือ การก่อสร้างท่าเรือเฟอร์รี่ เพื่อเชื่อมต่อระบบคมนาคม และขนส่งระหว่างเมืองพัทยา-ชะอำ-หัวหิน อันจะเป็นการเชื่อมโยง 2 ภูมิภาคให้มีความแข็งแกร่งด้านลอจิสติกส์มากขึ้น โดยมองว่านอกจากจะเป็นท่าเรือเฟอร์รี่แล้ว ยังจะได้มีการพัฒนาพื้นที่ทั้งในส่วนของอาคารรองรับผู้โดยสาร สถานที่จอดรถ ระบบสาธารณูปโภค รวมถึงองค์ประกอบเรื่องอื่นๆ ตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมกระทรวงคมนาคมดังกล่าวไปแล้วเกี่ยวกับข้อมูลด้านกายภาพของเมืองพัทยา และท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย ถึงขีดความจำกัดในการรองรับการให้บริการที่มีความจำเป็นต้องแก้ไข และพัฒนาให้สูงขึ้น ทั้งเรื่องของขนาดท่าเรือซึ่งเป็นเพียงระดับท่องเที่ยว และมาตรฐานอื่นๆ อย่างการพัฒนาเส้นทางการเดินรถ อาคารที่จอด เนื่องจากหากมีการเปิดใช้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่จริงแต่ไม่มีการพัฒนาระบบรองรับก็อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินการได้
ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเอง ก็ได้มอบหมายให้กรมทางหลวงชนบทไปทำการศึกษาการต่อเชื่อมเส้นทางจากท่าเรือพัทยาใต้ ตรงไปยังถนนสุขุมวิท พร้อมรับเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาก่อนจะนำคณะเดินทางมาดูสภาพพื้นที่จริงในเร็วๆ นี้ เพื่อผลักดันโครงการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปด้วย