“ชาวชุมชนหลังเนิน” ปักป้ายกดดันรัฐย้ายผู้ป่วยเอดส์ออกจากพื้นที่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านชุมชนหลังเนิน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ปักป้ายกดดันรัฐ ย้ายผู้ป่วยเอดส์ออกจากพื้นที่หลังใกล้หมดเวลา เพื่อไปสรรหาที่จัดตั้งศูนย์แห่งใหม่ พร้อมเตรียมงัดมาตรการขั้นเด็ดขาดหากยังดื้อแพ่ง

วันนี้ (26 พ.ค.) ภายหลังจากที่กลุ่มชาวบ้านในชุมชนหลังเนิน ม.3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทำการลงประชามติให้มูลนิธิกระท่อมพระสิริ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอสไอวีระยะสุดท้าย ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ป่วยพำนักอยู่ประมาณ 30 ชีวิตย้ายออกไปจากพื้นที่ชุมชนโดยไม่มีข้อแม้ภายใน 6 เดือน หรือถึงกำหนดเวลาในวันที่ 12 มิ.ย.58 เนื่องด้วยหลังจากที่ทางมูลนิธิฯ นำพาผู้ป่วยมาพำนัก ส่งผลให้เศรษฐกิจของชุมชนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มที่พักอาศัยที่ผู้พักส่วนใหญ่ต่างพากันย้ายออกด้วยหวั่นปัญหาการติดโรค

ที่ผ่านมา แม้มีทางภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปชี้แจงว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าเริ่มส่อเค้ามีปัญหาขึ้นอีก เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านออกมารวมตัวพร้อมปักป้ายเรียกร้องให้รัฐเข้ามาจัดการอย่างเร่งด่วนก่อนครบระยะเวลาที่กำหนด โดยระบุว่า ไม่ต้องการให้ทางมูลนิธิ และผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่อีก

นายวิเชียร เวฬุวัน ประธานชุมชนหลังเนิน เปิดเผยว่า ใกล้ถึงกำหนดเวลาตามที่มีการทำประชาคมหมู่บ้านให้มูลนิธิฯ ย้ายออกไปจากพื้นที่ภายใน 6 เดือนไปแล้ว แต่กลับพบว่า ทางมูลนิธิฯ ยังคงเพิกเฉยไม่ดิ้นรนดำเนินการใดๆ แม้จะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยแล้วก็ตาม ทำให้ชาวบ้านรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากถึงกำหนดต้องย้ายออกแล้วทางมูลนิธิฯ ยังคงดื้อดึงชาวบ้านก็คงจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด แต่คงไม่เผยว่าจะเป็นวิธีการใด แต่ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะไม่มีความรุนแรง และจะไม่มีการให้โอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง

ด้าน นายวิเชียร บางศิริ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระท่อมพระสิริ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา รู้สึกเจ็บปวดที่ไม่ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านคิดว่าทุกคนน่าจะอยู่ร่วมกันปกติสุขได้ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าเหตุการณ์น่าจะสงบไปแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังต่อต้าน และต้องการย้ายออกไปจากชุมชน แต่ด้วยทางมูลนิธิฯ ไม่มีทุนทรัพย์ และที่อยู่ปัจจุบันก็ได้มีการทำสัญญาซื้อขายไปแล้ว

ส่วนสถานที่ที่ทางเทศบาลหนองปรือ จัดหาให้ใหม่บริเวณ ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ก็ห่างไกลชุมชน โรงพยาบาล ขาดแคลนสาธารณูปโภค อีกทั้งยังอยู่ใกล้บ่อขยะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ติดเชื้อได้ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคงต้องรอการตัดสินใจของผู้บริหารมูลนิธิ แต่ทั้งนี้ได้กำชับให้ผู้ป่วยไม่ออกไปเดินเพ่นพ่านให้อยู่แต่ในขอบรั้วบ้านเท่านั้น จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่มีความชำนาญ มีความเข้าใจมาช่วยทำความเข้าใจให้มูลนิธิอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสันติสุข

ขณะที่ นายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเทศบาลเมืองหนองปรือ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการหาสถานที่แห่งใหม่ให้แก่มูลนิธิฯ เพื่อไม่ให้กระทบ หรือมีปัญหาต่อชุมชนอื่นๆ แต่สถานที่ที่จัดหาให้ก็ได้รับการปฏิเสธจากมูลนิธิฯ ในส่วนของชุมชนนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเขาอยู่อาศัยกันมาแต่ครั้งปู่ย่าตายายอย่างปกติสุข

แต่เมื่อมีมูลนิธิกระท่อมพระสิริ เข้ามาอยู่แบบไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้ต่างฝ่ายต่างอยู่กันอย่างกดดัน ซึ่งที่ผ่านมา ทางเทศบาลฯ ได้เข้าไปดำเนินการในเรื่องของการทำประชาคมเพื่อจะหาข้อยุติ แต่ผลจากการทำประชาคมชุมชนไม่ยินยอม และระบุว่า ต้องย้ายออกภายใน 6 เดือน

ดังนั้น เมื่อใกล้ถึงเวลาชาวบ้านจึงออกมาแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจน แต่ทั้งนี้มั่นใจว่ามาตรการขั้นเด็ดขาดที่ชาวบ้านจะดำเนินการคงไม่มีปัญหาความรุนแรงอะไร