ศูนย์ข่าวศรีราชา – อธิบดีกรมลงโรงงานลงพื้นที่ตรวจ โรงงานเจซีซี บี บีสซเนส หลังมีชาวบ้านร้องเรียน ลักลอบปล่อยน้ำรีดเหล็กซึ่งมีมลพิษลงสู่พื้นที่เกษตรชาวบ้านบ้านบึง ได้รับความเสียหาย พบเป็นโรงงานที่ถูกสั่งปิดดำเนินการไปแต่ยังดื้อเปิดต่อ ประกาศสั่งปิดถาวร
วันนี้ (22 พ.ค.2558 ) นายพสุ โลหารชุณ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ สวัสดีมงคล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และนายอานันท์ ฟักสังข์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบภายในบริษัท เจซีซีบี บิสซเนส จำกัด เลขที่ 742 หมู่ 1 ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นโรงงานของนางวรรณา ศรีคำ ที่นำน้ำมันเสียมารีไซเคิล
หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีน้ำเสียคล้ายน้ำมันไหลออกมา จากโรงงานและส่งกลิ่นเหม็น จนทำให้การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายและดินเป็นสีดำ จนไม่สามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรได้
นายพสุ โลหารชุณ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เผยว่า บริษัทเจซีซีบี บิสซเนส จำกัดได้ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากโรงงานดังกล่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าโรงงานแห่งนี้ได้ถูกสั่งปิดให้มีการปรับปรุงแก้ไขไปแล้วตั้งแต่ปี 2556 แต่ก็ไม่มีการดำเนินการ และที่สำคัญมีการลักลอบนำกากสารเคมีจากโรงงานไปทิ้งที่เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา โดยคนขับรถไปนำไปทิ้งนั้นยอมรับสารภาพว่านำมาจากโรงงานดังกล่าว จึงนำคณะมาตรวจสอบในครั้งนี้เพื่อความชัดเจน
ขณะนี้ ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด ถ้าชัดเจนจะดำเนินมาตรการ 39 วรรค 3 คือ ปิดโรงงานดังกล่าวถาวร โดยต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐาน และคาดว่าในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
นายพสุ กล่าวอีกว่า ปัญหากากอุตสาหกรรมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในความสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นนโยบายให้อุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ กำกับดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มข้น และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญทางกระทรวงฯมีแผนในเชิงรุกในการจัดการด้านกากอุตสาหกรรม พร้อมนำเสนอ ครม. ให้รับทราบ เพื่อให้การแก้ไขปัญหากากอุตสาหกรรมในระยะยาวต่อไป
ด้านนายอานันท์ ฟักสังข์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สำหรับโรงงานดังกล่าว ขออนุญาต นำน้ำมันเสียมา รีไซเคิล แต่ที่ผ่านมากระทำผิดระเบียบ จึงสั่งปิดเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุง เพราะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านจนได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอด
ในครั้งนี้ทางอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมคณะจึงเดินทางมาตรวจและพบสภาพและปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็คงดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป นอกจากนั้นทางกรมโรงงานจะต้องไปตรวจสอบบริษัทในเครือข่ายอีก 2 แห่ง ที่ จังหวัดนครปฐม ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไรต่อไป
นายสมศักดิ์ สวัสดีมงคล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว เจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า เรื่องโรงงานดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนมาตั้งแต่ปี 2554 แล้ว โดยน้ำจากการบำบัดของเสียนั้นนั้นได้ไหลซึมออกจากโรงงานเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมา การดำเนินการล่าช้านั้น เนื่องจากขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรมนั้น มีหลายขั้นตอน เช่น สั่งให้หยุดเพื่อดำเนินการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง จึงล่าช้ามาโดยตลอด ซึ่งตนให้ฐานะผู้บริหารท้องถิ่นต้องการให้ปิดอย่างถาวรไปเลย เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งต้นน้ำ ที่สำคัญโรงงานไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาแต่อย่างไร เพราะที่ผ่านมากรมโรงงานให้โอกาสแล้ว ซึ่งคาดว่าในครั้งนี้คงปิดถาวรอย่างแน่นอน
นายเรวัฒน์ เสาศิริ ชาวสวนปาล์ม เผยว่าตนมีอาชีพ ปลุกต้นปาล์ม ซึ่งมีพื้นที่ติดกับโรงงานดังกล่าว โดยตั้งแต่มีโรงงานแห่งนี้ตนได้รับกระทบมาโดยตลอด ทั้งเรื่องของกลิ่นเหม็น และที่สำคัญ คือ น้ำเสีย ทำให้ต้นไม้ตาย โดยที่ผ่านมาได้ร้องเรียนยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ซึ่งคาดว่าคราวนี้คงจะสามารถแก้ไขให้ชาวบ้านได้