กาญจนบุรี - ชาวบ้านเขาปู่คง อำเภอด่านมะขามเตี้ย เมืองกาญจนบุรี รวมตัวชูป้ายคัดค้านบริษัทเอกชนระเบิดหิน เผยสาเหตุที่ชาวบ้านรวมตัวคัดค้านการระเบิดหินก็เพื่อต้องการที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่คู่หมู่บ้านตลอดไป อีกทั้งการระเบิดหินยังส่งผลกระททำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปด้วย พร้อมจี้ คสช.สั่งระงับ ขณะที่ผู้บริหารบริษัทเอเชียเพลเลทส์ จำกัด เจ้าของประทานบัตรยันไม่เคยข่มขู่ชาวบ้าน วอนให้มาพูดกันด้วยเหตุผล
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.) นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย ได้นัดเจรจาหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องที่ชาวบ้านหมู่ 10 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี รวมตัวคัดค้านการระเบิดหินของบริษัท เอเชียเพลเลทส์ จำกัด ที่เตรียมนำเครื่องจักรกลเข้าไปเปิดการทำเหมือง แปลงสัมปทานบัตรที่ 28308/14567 และแปลงประทานบัตรที่ 28309/14566 บริเวณเขาปู่คง ที่มี นายศุภกิจ ทรัพย์ส่งแสง เป็นผู้บริหาร โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเดินทางไปร่วมพูดคุยที่บริเวณปากทางเข้าเขาปู่คง หมู่ 10 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี โดยมีชาวบ้านบ้านเขาปู่คง และหมู่บ้านใกล้เคียงประมาณ 100 คน เดินทางไปร่วมและชูป้ายคัดค้านการระเบิดหินด้วย
ทั้งนี้ นายศุภกิจ ทรัพย์ส่งแสง ผู้บริหารบริษัท เอเชียเพลเลทส์ จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางบริษัทยังไม่สามารถเข้าไประเบิดหินได้ปัญหามาจากการที่ชาวบ้านได้รวมตัวกันคัดค้านอยู่ตลอดเวลา การประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกันก็ถูกชาวบ้านคัดค้าน และล้มการประชุมทุกครั้ง คงเป็นเพราะชาวบ้านยังไม่เข้าใจการดำเนินการระเบิดหินของบริษัท
“ขั้นตอนการดำเนินการบริษัทได้ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แต่ไม่ถูกใจชาวบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่หน้าที่ของเราคือ จะพยายามทำความเข้าใจต่อชาวบ้านให้ดีที่สุด ขณะนี้ชาวบ้านบางส่วนเข้าใจบ้างแล้ว” นายศุภกิจ กล่าว และกล่าวต่อว่า
สำหรับข่าวที่ว่ามีการข่มขู่ชาวบ้านที่คัดค้านนั้น ตนยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะถึงแม้ชาวบ้านจะคัดค้าน แต่ก็มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแลทุกครั้ง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง อยากฝากไปถึงชาวบ้านที่คัดค้านทุกคนว่า อยากให้มาพูดคุยทำความเข้าใจกันด้วยเหตุด้วยผล และขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวตามความเป็นจริงด้วย
ด้าน นางน้ำอ้อย ผิวดำ อยู่บ้านเลขที่ 2/4 หมู่ 10 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ชาวบ้านคัดค้านการระเบิดหินของบริษัท ก็เพื่อต้องการที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่คู่หมู่บ้านตลอดไป ซึ่งปัจจุบัน ชุมชนได้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น หากมีการระเบิดหินก็จะส่งผลทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปด้วย
“หากชาวบ้านไม่ออกมาช่วยกันสอดส่องดูแล เราจะไม่ทราบเลยว่า ทางบริษัทดำเนินการอย่างไรบ้าง ผู้นำท้องถิ่นของเราเองก็ไม่เคยออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับชาวบ้านเลย จึงขอเรียกร้องไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลงมาช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการสั่งให้บริษัทระงับและยกเลิกการระเบิดหินอย่างเด็ดขาด” นางน้ำอ้อย กล่าว
สำหรับจุดระเบิดหินคือ เขาปู่คง ภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ติดกับหมู่บ้าน เมื่อปี พ.ศ.2534 เมื่อทางโรงโม่ทำการระเบิดหินทำให้หินปลิวไปตกลงบนหลังคา และกระเด็นตกใส่คนงานของวัดจนพิการอยู่จนทุกวันนี้ นอกจากนี้ การระเบิดหินยังส่งผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องปัญหาของฝุ่นละออง และการทำประชาพิจารณ์ทุกครั้ง ชาวบ้านก็ยกมือคัดค้านมากกว่ากลุ่มผู้ที่ยกมือเห็นด้วย ทำให้การทำประชาพิจารณ์ไม่ผ่าน แต่ผู้ประกอบการบอกต่อชาวบ้านว่า จะดำเนินการต่อ ทำให้ชาวบ้านเกรงว่า ทางผู้ประกอบการจะทำการระเบิดหินอีก ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบคงจะไม่ยอมอย่างแน่นอน
