xs
xsm
sm
md
lg

ถกกลุ่มย่อยทำแผนแม่บท 10 ปี ธุรกิจพัทยา ย้ำสร้างคนปูพื้นท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประชุมกลุ่มย่อยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถกโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์แผนแม่บทการพัฒนาเมืองพัทยา 10 ปี ภาคธุรกิจย้ำเน้นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลปูพื้นฐานในอนาคต พร้อมสร้างการท่องเที่ยวแบบครบวงจรเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมการจัดทำประชาพิจารณ์ระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกลุ่มที่ 4 ได้แก่ กลุ่มองค์กร สมาคม ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และวิสาหกิจ เพื่อจัดทำโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์แผนแม่บทการพัฒนาเมืองพัทยา 10 ปี (2559-2568) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองพัทยา 5 ปี และแผนพัฒนาเมืองพัทยา 3 ปี ซึ่งถือเป็นการจัดทำครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยดำเนินการมาแล้ว 1 ครั้ง ในระหว่างปี พ.ศ.2553-2563 โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากเมืองพัทยาเป็นที่ปรึก ษาเข้ามาดำเนินการในการจัดทำข้อมูล รวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนา และโครงการในด้านต่างๆ เพื่อบรรจุเป็นแผนแม่บท ก่อนนำเสนอสู่สภาเมืองพัทยา เพื่อประกาศใช้อย่างเป็นรูปธรรม ภายในเดือนมิถุนายนศกนี้

นายอิทธิพล กล่าวว่า ตามระเบียบทางราชการของกระทรวงมหาดไทย ระบุไว้ว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องจัดทำแผนการพัฒนาในระยะ 3 และ 5 ปี เพื่อเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ และกำหนดกรอบการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม โดยแผนดังกล่าวต้องสอดคล้องต่อแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนของกระทรวง มหาดไทย และยุทธศาสตร์ของชาติ

แต่ด้วยความที่เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นที่ต้องจัดทำแผนใน 3 ระดับ คือ ระยะสั้น 3 ปี ระยะกลาง 5 ปี และระยะยาว 10 ปี เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อการมุงสู่ความสมดุล ยั่งยืน และเป็นเมืองท่อง เที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับภูมิภาค และระดับโลก (Tourism City) การบริการเป็นมาตรฐานสากล และพร้อมยกระดับความเป็น World Destination

อย่างไรก็ตาม การจัดทำแผนดังกล่าวนอกจากจะเป็นการระดมความคิดเห็น และวิสัยทัศน์การพัฒนาซึ่งต้องล้อไปตามแผน และแนวนโยบายของภาครัฐแล้ว ยังดูองค์ประกอบจากการความต้องการของประชาชน และสังคม ซึ่งต้องครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งสภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ก่อนนำแผนแม่บทที่รวบรวมไว้มาคัดเลือดเพื่อจัดทำแผนข้อบัญญัติตามงบประมาณในทุกปีงบประมาณ

ด้าน นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่าเมืองพัทยาเป็นเมืองที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว 70-80% ปัจจุบัน มีปริมาณนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มทุนต่างๆ แห่มาลงทุนกิจการมากมาย แต่กลับพบว่าการรองรับในด้านต่างๆ ไม่ทันต่อปริมาณของนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม และขนส่ง

รวมทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อมจนทำให้เกิดปัญหามากมาย ขณะที่มาตรการสำคัญของเมืองท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเรื่องของความสะดวก สะอาด และปลอดภัยนั้นก็ยังคงประสบปัญหาเช่นกัน จึงควรมีการบูรณาการในการจัดมาตรการรองรับอย่างครอบคลุม

ในอนาคตอันใกล้ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ขณะที่เมืองพัทยาเองก็มีการเติบโตขึ้นอีกในหลายมิติ แต่ทรัพยากรบุคคลในพื้นที่เองยังไม่มีการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันเพิ่มทักษะ และคุณภาพที่จะสามารถรองรับ และแข่งขันกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรเน้นในแผนดังกล่าวอย่างจริงจังเพื่ออนาคตที่สดใส ซึ่งกรณีนี้ก็ถือว่าสอดคล้องต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ที่ประกาศใช้ในปัจจุบันด้วย

ขณะที่ นายสรรเพ็ชร ศุภบวรสเถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ระบุว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ แต่การสนับสนุนหลายอย่างยังไม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ ทั้งๆ ที่มีปัจจัยที่พร้อมสามารถผลักดันให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวได้ อย่างกรณีของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ซึ่งถือว่ามีพื้นที่อยู่ใกล้กับเมืองพัทยา และมีการจัดสรรงบประมาณเข้ามาพัฒนาปรับปรุงเป็นจำนวนมาก

แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับสภาพให้กลายเป็นสนามบินนานาชาติ ที่สามารถรองรับการเดินทางได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเรื่องนึ้ควรให้ความสนใจ และเร่งผลักดันอย่างจริงจังในระยะเวลาอันใกล้นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น