ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ธนารักษ์โคราชเดินหน้าดำเนินคดีกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร “มอปลาย่าง” รุกลำตะคอง 29 ราย แม้กลับใจมาร่วมมือรัฐก็ตาม ด้านจังหวัดฯ เตรียมกำลังร่วม 2,000 นายเข้าปฏิบัติการรื้อย้ายล็อต 2 พรุ่งนี้เช้าอีก 32 ราย ขณะตำรวจลดกำลังเน้นดูแลจราจรเป็นหลัก คาดไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนทหารอากาศขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ 50 นาย
วันนี้ (14 พ.ค.) นายศุภชัย ตั้งวัฒนากรณ์ นายช่างสำรวจอาวุโส สำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร บุกรุกที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ส.นม.1806 บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ถ.มิตรภาพ บ้านเขาน้อย ม.12 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งทางธนารักษ์ได้เข้าแจ้งความเอาผิดผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวน 29 ราย ตามรายชื่อที่ไปยื่นฟ้องศาลปกครอง ซึ่งทางตำรวจแจ้งว่าได้ออกหมายเรียกผู้ประกอบการทั้งหมดไปให้ปากคำแล้ว หากตำรวจจะเรียกทางธนารักษ์ไปให้ปากคำเพิ่มเติมก็ยินดี
สำหรับคดีดังกล่าว นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กำชับให้เร่งดำเนินการก่อนที่การรื้อย้ายร้านอาหารและอาคารต่างๆ จะเสร็จสิ้น แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มไม่ยินยอมกลับใจมาให้ความร่วมมือกับภาครัฐแล้วก็ตาม แต่คดียังต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุหากไปตรวจแล้วทางผู้ประกอบการได้รื้อย้ายออกไปก่อนก็คงมีรายงานว่าตรวจสอบแล้วไม่พบร้านค้าหรืออาคาร จากนั้นสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาฟ้องศาลต่อไป และทางกลุ่มผู้ประกอบการเองคงไปยอมรับกับศาลว่าได้รื้อย้ายออกไปแล้ว เมื่อไปถึงขั้นตอนนั้นทางธนารักษ์ก็อาจไม่ฟ้องต่อเพราะถือว่าผู้ประกอบการได้รื้อย้ายไปจากที่ราชพัสดุหมดแล้ว
“อย่างไรก็ตาม ร้านค้า บ้านพัก และอาคารต่างๆ ในพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองดังกล่าวต้องรื้อให้หมดเพราะเป็นพื้นที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อม ยกเว้นว่าทางส่วนราชการจะขอใช้ อาจทำเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง หรืออื่นๆ ก็จะมีการพิจารณากันอีกครั้ง” นายศุภชัยกล่าว
ด้าน นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การเข้ารื้อย้ายล็อต 2 ร้านอาหาร อาคารบ้านพัก บุกที่ราชพัสดุ บริเวณมอปลาย่าง ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) จะมีทั้งอาคารร้านอาหารเก่าที่ยังรื้อไม่เสร็จจากล็อตแรก และร้านใหม่ของกลุ่มที่ไม่ยินยอมตั้งแต่แรก ซึ่งจะรื้อทั้งหมดประมาณ 40 หลัง โดยเป็นร้านใหม่ประมาณ 32 ราย บางส่วนผู้ประกอบการได้มีการรื้อไปเองบ้างแล้ว คาดว่าจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดประมาณร่วม 2,000 นาย
โดยชุดรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น ทางทหารกองทัพภาคที่ 2 จัดกำลังสนับสนุนเท่าเดิมคือ 300 นาย แต่ครั้งนี้จะมีทหารอากาศที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์เพิ่มอีก 50 นาย ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลดลงเหลือแค่ 1 กองร้อยหรือประมาณ 100 นาย โดยเน้นการดูแลเรื่องจราจรและอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ เป็นหลัก
“คาดว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะมีแค่ 2 รายที่ไม่ยินยอม คือ ร้านวิวสวยน้ำใส และบ้านพักอาศัยของนางกมลมาลย์ ซึ่งอ้างว่าได้ให้คนงานของครัวอีสานเช่าอยู่เท่านั้น แต่ทั้งสองแห่งต้องถูกรื้อในวันพรุ่งนี้เช่นกันไม่มีข้อยกเว้นเพราะทุกอย่างได้ดำเนินการครบถ้วนตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว” นายวินัยกล่าว