ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชประกาศบุกรื้อร้านอาหาร “มอปลาย่าง” บุกรุกเขื่อนลำตะคอง ปิดฉากปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 20 ปี สั่งเตรียมกำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน และท้องถิ่นเข้าพร้อมกัน ดีเดย์ 8 พ.ค. รื้อล็อตแรก 12 ร้านที่สมัครใจ ส่วนล็อต 2 รื้อ 29 รายกลุ่มต้าน ล็อตสุดท้ายเดือน ก.ค.รื้อเกลี้ยงหมดทั้งบ้านพักและห้องน้ำ คาดไม่มีเหตุรุนแรง
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ห้องประชุมอาเซียน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ราชพัสดุ เพื่อประกอบกิจการร้านอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ถนนมิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมี นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าฯ นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรวมกว่า 80 คน
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติในการเข้ารื้อถอนร้านอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าการดำเนินการมาถึงที่สิ้นสุดแล้วหลังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการบางส่วนที่ไม่ยินยอมรื้อถอนจำนวน 29 รายได้มาแสดงความจำนงรื้อถอนเอง แต่ปรากฏว่าทั้งหมดไม่ได้มายื่นความจำนงดังกล่าว ฉะนั้นในส่วนของภาครัฐจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป
จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างของผู้บุกรุกที่ดินราชพัสดุบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) โดยได้จัดพื้นที่รองรับไว้ให้สำหรับผู้ประกอบการที่สมัครใจจำนวน 16 ราย ส่วนอีก 29 รายที่ไม่ยินยอมออกก็ต้องรื้อทิ้งไม่ให้เข้ารับสิทธิดังกล่าว พร้อมกับดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการกลุ่มนี้ด้วย
“ยืนยันว่าเราไม่ได้กระทำด้วยความอคติ ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่เป็นการกระทำสิ่งที่ถูกต้องนำพื้นที่สาธารณะกลับมาให้เป็นของส่วนรวม ถือเป็นการปิดฉาก ปัญหาบุกรุกที่สาธารณะที่ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 20 ปี” นายอดุลย์กล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าอาคารทั้งหมดที่จะต้องรื้อถอนมีจำนวน 80 หลัง โดยจะทำเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งในวันที่ 8 พ.ค.นี้จะทำการรื้อถอนอาคารของผู้ประกอบการเฉพาะผู้ที่สมัครใจจำนวน 16 ราย แต่ดำเนินการรื้อถอนเองไปแล้ว 4 ราย เหลือ 12 ราย ที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการ
จากนั้นวันที่ 15 พ.ค. จะทำการรื้อถอนอาคารร้านอาหารของกลุ่มผู้ที่ไม่ยินยอมอีกจำนวน 29 ราย และในส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นอาคารบ้านพัก และห้องน้ำ จะทำการรื้อถอนให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน ก.ค.
นายธงชัยกล่าวอีกว่า ในช่วงนี้จะให้เวลาแก่ผู้ประกอบการได้เก็บทรัพย์สินข้าวของต่างๆ ออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปเพื่อจะอ้างไม่ได้ว่าทรัพย์สินเสียหายจากการทำงานของรัฐ ซึ่งกำลังคนที่จะนำเข้าไปรื้อมีหลายฝ่ายทั้ง ทหาร ตำรวจ พลเรือน และท้องถิ่นที่จะร่วมกันเข้าไปรื้อ และคาดว่าน่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะสังคมรับรู้อยู่แล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นการบุกรุกที่ของรัฐอย่างชัดเจน
ส่วนผู้ใหญ่บ้านที่เป็นแกนนำผู้ประกอบการร้านอาหารกลุ่มต่อต้านนั้น ยืนยันว่าต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยคือการไล่ออกจากตำแหน่งแน่นอน
