ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ที่ดินโคราชสั่งเพิกถอนโฉนด “บ้านนายพล” ยึดชะง่อนผาเขาหนองเชื่อม อ.ปากช่อง ไม่รอนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ชี้ชัดเจนอยู่บนเขาออกโฉนดและเข้าทำกินไม่ได้ พร้อมเพิกถอนที่ดิน “ธาริต” อดีตอธิบดีดีเอสไอ ใช้เอกสาร น.ค.3 ของนิคมฯ ออกโฉนด ฮุบเขต ส.ป.ก. กว่า 30 ไร่ พร้อมเอาผิด จนท.ออกโฉนดโดยมิชอบ แม้เกษียณหรือลาออกก็ต้องรับโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีที่ พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมายกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) พร้อมคณะ ได้เข้าตรวจสอบการบุกรุกที่ดินบริเวณชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 330 ไร่ พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง โดยมีชื่อนายตำรวจ 6 นาย ในจำนวนนี้มีระดับผู้บัญชาการ 1 นาย รองผู้บัญชาการ 2 นาย พนักงานอัยการ 2 คน ที่เหลือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และญาตินักการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีน้องชายของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นคนดำเนินการรังวัดออกโฉนดทั้งหมด ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (4 เม.ย. ) นายมลศักดิ์ จงรักษ์ ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การออกโฉนดในที่ดินดังกล่าวเนื่องจากได้รับการยืนยันจากนิคมสร้างตนเองลำตะคอง แต่เมื่อพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นชะง่อนผาซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถนำมาออกโฉนดหรือเข้าไปทำกินได้ ตนจึงได้สั่งการให้สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขา ปากช่อง เข้าไปตรวจสอบโดยละเอียดไม่ต้องรอให้ทางนิคมสร้างตนเองเพิกถอน พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการออกโฉนดทั้งหมด 30-40 แปลง ซึ่งมีอยู่คละกันไป หากมองในระวางจะไม่รู้ว่าอันไหนเป็นพื้นที่ราบหรือภูเขา หากตรวจพบว่าแปลงไหนอยู่บนภูเขา ซึ่งไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ที่จะออกโฉนดให้ได้ ก็ให้แจ้งมาเพื่อจะได้ทำเรื่องเสนอกรมที่ดินเพื่อเพิกถอนแก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ ได้ให้กรอบเวลาเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจเพื่อรายงานข้อมูลให้ชัดเจน จากนั้นทำเรื่องเสนอขึ้นมา โดยทุกอย่างต้องแล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกคำสั่ง ( 3 เม.ย.) คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้เรื่องเขาหนองเชื่อม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จะต้องแล้วเสร็จแน่นอน
ส่วนขั้นตอนการเพิกถอนนั้นจะไม่มีอะไรยุ่งยาก หรือซับซ้อน เพราะภูเขาไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะออกโฉนดที่ดินได้อยู่แล้ว
สำหรับปัญหาที่ต้องล่าช้ามานาน เนื่องจากเรารอทางนิคมสร้างตนเองลำตะคอง โดยแจ้งไปยังนิคมสร้างตนเองลำตะคองว่าให้ตรวจสอบว่าออก น.ค.3 ให้เข้าการทำประโยชน์บริเวณนี้ได้อย่างไร และหนังสือ น.ค.3 ชอบด้วยกฎหมายตามระเบียบของนิคมฯ หรือไม่ หากตอบมาว่าไม่ชอบ อันนี้จะเร็วขึ้นมาก โดยเราไม่ต้องพิจารณาเรื่องภูเขาแล้ว แต่มาวันนี้เรารอไม่ได้เพราะทุกฝ่ายเร่งรัดมา และมีการถามมาที่เราตลอด ตนคิดว่าหากมันไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ทางนิคมฯ และทางประมวลกฎหมายที่ดินออกให้ไม่ได้อยู่แล้ว
ฉะนั้นตนจะตั้งเรื่องเพิกถอน เบื้องต้นน่าจะมีประมาณกว่า 10 แปลงก่อน ซึ่งเป็นแปลงเล็กปลูกบ้านเป็นหลังๆ ประมาณ 1-2 ไร่ ส่วนบางแปลงมีอยู่ข้างล่างอันนั้นเอาไว้ว่ากันทีหลัง ตรงนี้เราต้องให้ทางศูนย์สงครามพิเศษตอบมาก่อนว่าบริเวณนี้ศูนย์สงครามพิเศษขอใช้พื้นที่ซึ่งมันจะเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถออกหนังสือเข้ารับรองการทำประโยชน์ของนิคมฯ ลำตะคองได้ เพราะเป็นพื้นที่ทหารที่เขาขอให้อยู่
นายมลศักดิ์กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบนั้น เมื่อรู้อยู่แล้วว่าเป็นชะง่อนผาแล้วยังมีการออกโฉนดให้อีก เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ที่ออกโฉนดให้อย่างน้อยต้องโดนวินัยแน่นอน แต่โทษจะหนักเบาอย่างไรขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบ ซึ่งการออกโฉนดเกิดขึ้นประมาณปี 2550-2551 ฉะนั้นต้องตรวจสอบย้อนไปว่าใครเกี่ยวข้อง แม้ข้าราชการคนดังกล่าวจะเกษียณไปแล้วก็ตาม แต่โทษวินัยก็ยังมี คนเกษียณไปแล้วหรือลาออกไปแล้วก็ต้องรับโทษทางวินัยเช่นกัน หากมีการลงโทษร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกก็ต้องคืนเบี้ยบำนาญตามระเบียบทางราชการ
สำหรับที่ดินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีการออกโฉนดโดยไม่ชอบนั้น ตนลงนามหนังสือถึงกรมที่ดินไปแล้วให้ทำการเพิกถอน เนื่องจากที่ดินที่นายธาริตครอบครองอยู่นี้อยู่นอกเขตดำเนินการของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง โดยนิคมสร้างตนเองลำตะคองออก น.ค.3 นอกเขตพื้นที่ตัวเอง ไปทับซ้อนในพื้นที่ป่าเขาภูหลวง ซึ่งเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อันนี้มันชัดเจน เรามีความจำเป็นที่จะต้องเพิกถอนแก้ไข ซึ่งกรณีนี้มีการออกโฉนดจำนวน 30 ไร่ 1 งาน โดยเป็นชื่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ นายมลศักดิ์กล่าวในตอนท้าย