ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- แล้งพ่นพิษ ชาวโคราชเปิดศึกแย่งน้ำลำตะคอง นายกเล็กเทศบาลตำบลกุดจิกนำ จนท.-ปชช.บุกทุบทำนบกั้นน้ำลำตะคองของเกษตรกรสูบเข้านาปรังหมดเกลี้ยง ไหลไม่ถึงปลายน้ำจุดสูบน้ำดิบผลิตประปา ส่งผลเดือดร้อนหนักประปาไม่ไหลมา 3 วัน เผยจัดเวรยามดูแลหวั่นสร้างทำนบกั้นอีก วอนจังหวัดเป็นคนกลางเร่งแก้ปัญหา ผวาเกิดวิกฤตแย่งชิงน้ำครั้งใหญ่ มี.ค.-เม.ย.นี้
วันนี้ (8 ก.พ.) นายภัทรพล บัญชาจารุรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกุดจิก ได้นำเจ้าหน้าที่และประชาชนในเขตเทศบาลตำบลกุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา กว่า 20 คน พร้อมอุปกรณ์ เช่น ค้อนปอนด์ มีด จอบ เสียม แม่แรง และเครื่องสกัดคอนกรีต เข้าไปทุบทำลายทำนบกั้นน้ำลำตะคอง บ้านเมืองเก่า ต.โคราช อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา และทำลายพนังกั้นน้ำที่อยู่บริเวณใกล้กันอีก 1 แห่งทิ้ง เนื่องจากประชาชนในเขตเทศบาลตำบลกุดจิกได้รับความเดือดร้อนหนักไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค เพราะเทศบาลฯ ไม่มีน้ำดิบจากลำตะคองเพื่อใช้ในการผลิตประปา ทำให้น้ำประปาไม่ไหลมา 3 วันแล้ว
ทั้งนี้ ในระหว่างทุบทำลายทำนบกั้นน้ำนั้นได้มีกลุ่มเกษตรกรที่ทำนาอยู่บริเวณดังกล่าวและเป็นผู้ที่สร้างทำนบกั้นเพื่อสูบน้ำเข้าหล่อเลี้ยงนาข้าวเดินทางมาสังเกตการณ์ตลอดเวลา และโทรศัพท์บอกเพื่อนเกษตรกรที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาสมทบ ซึ่ง นายภัทรพลได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจ และให้ประชาชนเร่งมือทุบทำลายทำนบให้เสร็จโดยเร็ว ก่อนที่เกษตรกร ชาวบ้านส่วนอื่นๆ ที่อยู่ด้านเหนือน้ำจะออกมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
นายภัทรพลเปิดเผยว่า ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลกุดจิกเกือบ 1,000 ครอบครัว รวมกว่า 3,000 คนอาศัยน้ำจากลำตะคองใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคผ่านระบบการผลิตประปาของเทศบาลฯ ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเทศบาลฯ ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปา พยายามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองเพื่อให้ส่งน้ำมาให้แก้ไขปัญหา โดยทางผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำฯ รับปากว่าจะปล่อยน้ำจากเขื่อนลำตะคองมาให้ทางเทศบาลฯ เพื่อสูบขึ้นไปกักเก็บใช้ผลิตน้ำประปาสัปดาห์ละ 2 วัน คือวันเสาร์ และอาทิตย์
แต่มาถึงสัปดาห์นี้ปรากฏว่าน้ำจากเขื่อนลำตะคองที่ปล่อยลงมาตามลำตะคองไหลมาไม่ถึงปลายทางจุดที่เทศบาลตำบลกุดจิกสูบน้ำขึ้นไปกักเก็บไว้ในบ่อน้ำดิบเพื่อผลิตประปา ทำให้น้ำที่เก็บไว้ในบ่อแห้งและไม่มีน้ำจากลำตะคองมาเพิ่มเติม หัวกะโหลกเครื่องสูบน้ำโผล่ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นไปผลิตประปาได้ ส่งผลให้ประชาชนในเขตเทศบาลฯ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งตนเองก็ไม่ได้อาบน้ำมา 3 วันแล้ว
ทั้งนี้ ทางเทศบาลฯ ได้ติดต่อสอบถามไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้รับคำตอบว่าทางโครงการส่งน้ำฯ เพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำมาให้แล้วแต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมน้ำจึงไหลมาไม่ถึง ฉะนั้นทางเทศบาลฯ จึงส่งเจ้าหน้าที่และประชาชนเดินตามเส้นทางน้ำลำตะคอง ปรากฏว่าตามรายทางที่น้ำไหลผ่านมีราษฎรจำนวนมากติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำขึ้นไปทำนาปรัง และจุดปัญหาหลักคือบริเวณทำนบกั้นน้ำบ้านเมืองเก่า พบชาวบ้านได้ก่อกำแพงคอนกรีตเสริมใยเหล็กเสริมทำนบกั้นน้ำสูงขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 10 เซนติเมตร (ซม.) เป็น 50 ซม. เพื่อกักเก็บน้ำไว้สำหรับทำนาปรัง ทำให้น้ำไหลผ่านทำนบไปได้น้อย และหากน้ำมีปริมาณน้อยก็ไม่มีน้ำไหลผ่านไปได้เลย จึงเกิดปัญหาน้ำไหลไปไม่ถึงปลายทาง คือจุดสูบน้ำของเทศบาลตำบลกุดจิก
ทำนบดังกล่าวนี้ทางเทศบาลฯ เคยรื้อมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2548 ที่โคราชเกิดวิกฤตภัยแล้งแต่ชาวบ้านก็กลับมาลักลอบสร้างขึ้นใหม่อีกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นวันนี้ต้องมารื้อออกเป็นครั้งที่สอง นอกจากนี้ยังพบว่าได้มีการสร้างทำนบโดยใช้ไม้และเสาปูนกั้นน้ำลำตะคองอีก ซึ่งได้ช่วยกันรื้อทิ้งแล้วเช่นกัน และจากนี้ไปคงต้องจัดเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลฯ เข้ามาดูเป็นประจำ เพราะทางเทศบาลฯ มีน้ำดิบผลิตประปาเพียงแหล่งเดียวที่ใช้หล่อเลี้ยงประชาชนชาวกุดจิก คือน้ำจากลำตะคองเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือจากเกษตรกรชาวนาด้วยว่า วันนี้น้ำเขื่อนลำตะคองเหลือปริมาณน้อย หากมีการกักน้ำเอาไว้และสูบน้ำขึ้นไปใช้เพื่อการเกษตรเป็นปริมาณมาก ๆ ไม่ปล่อยให้พื้นที่ด้านล่างได้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคก็จะต้องเกิดปัญหาการแย่งน้ำกันขึ้น และฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางจังหวัดนครราชสีมาลงมาเป็นคนกลางในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วก่อนที่จะเจอปัญหาใหญ่ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้เชื่อว่าจะเกิดวิกฤตปัญหาแย่งชิงน้ำขึ้นแน่นอน นายภัทรพลกล่าวในตอนท้าย
