ผู้บริหารคีรีมายาหารือผู้บริหารนิคมลำตะคอง หลังผุดรีสอร์ต บ้านพัก และสิ่งก่อสร้างอื่นโดยไม่ขออนุญาต คาดเข้าใจผิดเปลี่ยนน.ค. 3 เป็นโฉนดแล้วทำอะไรก็ได้ ขณะหลักเกณฑ์บังคับต้องทำการเกษตรเท่านั้น จะทำอย่างอื่นต้องขออธิบดีก่อน เผยผลตรวจสอบพบแค่เจ้าของเดิมขอเปลี่ยนเป็นสนามกอล์ฟเท่านั้น ที่เหลือไม่เคยยื่น แต่โทษจิ๊บจ๊อยปรับ 1 พัน คุก 1 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม นำโดย พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 และคณะ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบแปลงที่ดินโครงการบริษัท คีรีมายา จำกัด ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ทั้งหมด 1,696 ไร่ พบอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง 1,052 ไร่ อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ( ส.ป.ก.) 644 ไร่ และในจำนวนนี้ มีการบุกรุกทับร่องน้ำสาธารณประโยชน์ 163 ไร่ และทับทางสาธารณะ 48 ไร่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
วานนี้ (11 พ.ค.) แหล่งข่าวจากนิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากผู้บริหารคีรีมายา กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เขาใหญ่ ขอหารือกรณีแจ้งขอแก้ไขวัตถุประสงค์การใช้พื้นที่เดิม ซึ่งทางนิคมได้ให้รายละเอียดไปแล้ว โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทางคีรีมายายังไม่เคยขออนุญาตเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ สำหรับที่ดินของนิคมสร้างตนเองแม้จะจัดสรรให้ประชาชนที่เข้าหลักเกณฑ์ โดยมอบให้เป็น น.ค. 3 และหลังถือครองครบ 5 ปี สามารถนำไปออกเป็นโฉนดที่ดินได้ แต่การใช้ประโยชน์ที่ดินก็ยังต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิม คือ ทำการเกษตร หากต้องการเปลี่ยนต้องยื่นขออนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนหลังก่อนที่คีรีมายาจะเข้ามาซื้อกิจการสนามกอล์ฟเขาใหญ่ ผู้ประกอบการรายเดิมได้มีการขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์มาเป็นสนามกอล์ฟ และได้รับอนุญาตจากอธิบดีแล้วบางส่วน แต่พื้นที่ส่วนอื่นของคีรีมายาที่นำมาทำเป็นรีสอร์ต บ้านพัก รวมถึงสิ่งก่อสร้างอื่นที่ไม่ใช่ทำการเกษตร ยังไม่ได้ขออนุญาตทั้งสิ้น ดังนั้นจะต้องดูว่าพื้นที่เหล่านี้มีมากน้อยเพียงใด
"หลังจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ลงตรวจสอบพื้นที่ ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานปหาข้อมูลในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ แต่ไม่ได้มอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพ ปัญหาขณะนี้ คือ ไม่มีหน่วยงานตรวจวัดพิกัดที่แท้จริงของโครงการคีรีมายา เพื่อจะได้ทราบว่ามีที่ดินที่อยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคองมากน้อยแค่ไหน และอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเท่าไหร่ ไม่เหมือนกรณีของโบนันซ่า ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)เป็นเจ้าภาพตรวจวัดพิกัดพื้นที่บุกรุกอย่างชัดเจน"
แหล่งข่าว กล่าวว่า ถึงวันนี้จึงยังตอบไม่ได้ ที่ดินของนิคมสร้างตนเองที่ทางคีรีมายาครอบครองอยู่มีเท่าไหร่ ซึ่งเชื่อว่าเบื้องต้นทางคีรีมายาเองอาจไม่ทราบว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินต้องขออนุญาตกับทางนิคมก่อน แต่คงเข้าใจว่าเมื่อ น.ค. 3 ได้เปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินแล้ว และทางโครงการได้ยื่นขอจัดสรรที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัดแล้ว ก็น่าจะเพียงพอ ส่วนบทลงโทษการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์นั้น โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาทเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม นำโดย พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 และคณะ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบแปลงที่ดินโครงการบริษัท คีรีมายา จำกัด ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ทั้งหมด 1,696 ไร่ พบอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง 1,052 ไร่ อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ( ส.ป.ก.) 644 ไร่ และในจำนวนนี้ มีการบุกรุกทับร่องน้ำสาธารณประโยชน์ 163 ไร่ และทับทางสาธารณะ 48 ไร่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
วานนี้ (11 พ.ค.) แหล่งข่าวจากนิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากผู้บริหารคีรีมายา กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เขาใหญ่ ขอหารือกรณีแจ้งขอแก้ไขวัตถุประสงค์การใช้พื้นที่เดิม ซึ่งทางนิคมได้ให้รายละเอียดไปแล้ว โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทางคีรีมายายังไม่เคยขออนุญาตเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ สำหรับที่ดินของนิคมสร้างตนเองแม้จะจัดสรรให้ประชาชนที่เข้าหลักเกณฑ์ โดยมอบให้เป็น น.ค. 3 และหลังถือครองครบ 5 ปี สามารถนำไปออกเป็นโฉนดที่ดินได้ แต่การใช้ประโยชน์ที่ดินก็ยังต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิม คือ ทำการเกษตร หากต้องการเปลี่ยนต้องยื่นขออนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนหลังก่อนที่คีรีมายาจะเข้ามาซื้อกิจการสนามกอล์ฟเขาใหญ่ ผู้ประกอบการรายเดิมได้มีการขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์มาเป็นสนามกอล์ฟ และได้รับอนุญาตจากอธิบดีแล้วบางส่วน แต่พื้นที่ส่วนอื่นของคีรีมายาที่นำมาทำเป็นรีสอร์ต บ้านพัก รวมถึงสิ่งก่อสร้างอื่นที่ไม่ใช่ทำการเกษตร ยังไม่ได้ขออนุญาตทั้งสิ้น ดังนั้นจะต้องดูว่าพื้นที่เหล่านี้มีมากน้อยเพียงใด
"หลังจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ลงตรวจสอบพื้นที่ ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานปหาข้อมูลในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ แต่ไม่ได้มอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพ ปัญหาขณะนี้ คือ ไม่มีหน่วยงานตรวจวัดพิกัดที่แท้จริงของโครงการคีรีมายา เพื่อจะได้ทราบว่ามีที่ดินที่อยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคองมากน้อยแค่ไหน และอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเท่าไหร่ ไม่เหมือนกรณีของโบนันซ่า ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)เป็นเจ้าภาพตรวจวัดพิกัดพื้นที่บุกรุกอย่างชัดเจน"
แหล่งข่าว กล่าวว่า ถึงวันนี้จึงยังตอบไม่ได้ ที่ดินของนิคมสร้างตนเองที่ทางคีรีมายาครอบครองอยู่มีเท่าไหร่ ซึ่งเชื่อว่าเบื้องต้นทางคีรีมายาเองอาจไม่ทราบว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินต้องขออนุญาตกับทางนิคมก่อน แต่คงเข้าใจว่าเมื่อ น.ค. 3 ได้เปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินแล้ว และทางโครงการได้ยื่นขอจัดสรรที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัดแล้ว ก็น่าจะเพียงพอ ส่วนบทลงโทษการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์นั้น โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาทเท่านั้น
