ตร.แฉ “ส.ป.ก.โคราช” เบี้ยวไม่ยอมแจ้งจับนายช่างรังวัดฮุบป่า ด้าน “คีรีมายา” โอดธุรกิจหยุดนิ่งจี้รัฐเร่งสรุป

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -“รอง ผบช.ภ.3” แฉ ส.ป.ก.โคราชเบี้ยวไม่ยอมแจ้งจับนายช่างรังวัด ส.ป.ก.ฮุบที่กว่า 130 ไร่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานตัวเอง ทั้งที่ตกลงกันแล้วและทวงถามไปหลายครั้งแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ฝากให้ ส.ป.ก.เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หมูสีเพื่อเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ส่วน “คีรีมายา” ประสานขอให้รัฐเร่งรัดสรุปผลตรวจสอบ โอดธุรกิจเสียหายหยุดนิ่ง หากผิดพร้อมยอมรับ


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม นำโดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) และคณะ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่เจ้าหน้าที่รัฐนำไปออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และโครงการบริษัท คีรีมายา จำกัด ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นั้น

ล่าสุดวันนี้ (1 พ.ค.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจ สภ.หมูสีได้รับแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพียงคดีเดียวคือ คดีบ้าน 3 หลังที่บุกรุกพื้นที่ป่า บริเวณหมู่ 3 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของ นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา เท่านั้น ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ร่วมกันก่นสร้างแผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่

ส่วนคดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐคือ นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 30 ไร่ แต่นำมาออกเอกสารสิทธิที่ดินเนื้อที่กว่า 155 ไร่ โดยออกในนามของสามีตนเอง คือ นายสุวัฒน์ สุตันติราษฎร์ และได้ออกโฉนดที่ดินรุกล้ำเข้าไปในที่ดิน ส.ป.ก.มากกว่า 130 ไร่ และมีการจัดสรรขายให้แก่ข้าราชการหลายคนราคาไร่ละกว่า 10 ล้านบาท มติในที่ประชุมของคณะ พ.ต.อ.ดุษฎีตกลงกันชัดเจนเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าให้ทาง ส.ป.ก.เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนนั้น แต่จนถึงขณะนี้ทาง ส.ป.ก.กลับเบี้ยวไม่มาแจ้งความ แม้จะมีการทวงถามไปแล้วแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ฉะนั้นจึงขอฝากไปยัง ส.ป.ก.ว่าให้รีบมาแจ้งความเพื่อจะได้เริ่มการตรวจสอบไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธเนษฐกล่าวอีกว่า ในส่วนของกรณีโครงการคีรีมายานั้น ได้รับการประสานจากเจ้าของโครงการว่า หลังจากภาครัฐได้เข้าตรวจสอบแล้วปรากฏว่าขณะนี้ธุรกิจหยุดนิ่งทั้งหมด ทางโครงการไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ และลูกค้าไม่มีความมั่นใจธุรกิจทุกอย่างหยุดนิ่งทั้งหมด จึงขอให้ภาครัฐได้เร่งสรุปผลการตรวจสอบให้ชัดเจนโดยเร็ว ผิดหรือถูกก็ให้ว่าไปตามความจริง เพราะพื้นที่ของคีรีมายามีมากกว่า 1,600 ไร่ และมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มีปัญหา หากพื้นที่ตรงไหนผิดไม่ถูกต้องก็พร้อมแก้ไขและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แต่ตอนนี้จะทำอย่างไรให้ผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อธุรกิจเขาจะได้เดินหน้าต่อไป พล.ต.ต.ธเนษฐกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.บัณฑิต เส็งประชา ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีบ้าน 3 หลังนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาที่มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ คือ น.ส.ภัคมล กิจศิริกุล อายุ 34 ปี กับ นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา โดยการแจ้งการตรวจสอบจากท้องถิ่นและการไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดทางคณะทำงานคดีบุกรุกป่าของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยมี พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เป็นหัวหน้าคณะนั้น ได้เรียกประชุมทีมสอบสวนเพื่อให้คดีเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้เร่งรัดการทำคดีและทุกคดีต้องละเอียดรอบคอบให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย