ป่าไม้-ส.ป.ก.ร่วมแจ้งฟันอาญาช่างรังวัด ส.ป.ก.โคราชฮุบป่าพร้อมเชือดวินัย จ่อฟ้องแพ่ง “คีรีมายา”

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ป่าไม้ ร่วม ส.ป.ก.แจ้งความดำเนินคดีอาญา นายช่างรังวัด ส.ป.ก.โคราชแสบสร้างบ้านและฮุบป่าออกโฉนดขาย 130 ไร่ พร้อมเชือดวินัย ส่วน “คีรีมายา” ยังไม่มีหน่วยงานใดแจ้งจับ ด้านรอง ผชบ.ภ.3 ชี้คดีอาญาต้องเกิดจากเจตนา คาดคีรีมายาอาจเจอฟ้องแค่คดีแพ่งและแจ้งให้ปรับปรุงแก้ไขจุดที่เป็นปัญหา เผยนัดหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือความชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) กรมป่าไม้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตำรวจภูธรภาค 3 สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำโดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) และ พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ทภ.2 และคณะ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.ที่เจ้าหน้าที่รัฐนำไปออกเอกสารสิทธิที่ดิน และโครงการบริษัท คีรีมายา จำกัด ท้องที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (29 เม.ย.) พ.ต.อ.บัณฑิต เส็งประชา ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรมลงตรวจสอบพื้นที่ 2 จุดนั้น จนถึงขณะนี้ นายสุนทร กัณหาจันทร์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นครราชสีมา 1 (ปากช่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ร่วมกันแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อเจ้าของบ้าน 3 หลังที่ปลูกบนพื้นที่ 7 ไร่ ในท้องที่ หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง ตรงข้ามภูพบฟ้า ใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบ้านของนางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา แล้ว

โดยพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญา ที่ 135/58 โดยในบันทึกของเจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นางพรทวี สร้างรุกล้ำเขตป่าไม้ และ ส.ป.ก. พร้อมกันนี้ นางพรทวียังใช้ชื่อสามี นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 30 ไร่ ไปออกโฉนดที่ดินทับที่ดิน ส.ป.ก. มากกว่า 130 ไร่ โดยในวันที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้มี น.ส.ภัคมล กิจศิริกุล นำเอกสาร ภบท.5 มาแสดงตน ว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบว่า น.ส.ภัคมล เกี่ยวข้องหรือเป็นนอมินีนางพรทวีหรือไม่

ส่วนกรณีของโครงการคีรีมายานั้น คาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ อยู่ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดมาร้องทุกข์ดำเนินคดีแต่อย่างใด

ด้าน นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีโครงการคีรีมายาที่มีการออกโฉนดทับพื้นที่ ส.ป.ก.จำนวน 644 ไร่นั้น เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าทางโครงการคีรีมายามีเอกสารสิทธิที่ดิน จึงต้องให้ทางที่ดินตรวจสอบก่อนว่าได้มาอย่างไรถูกต้องหรือไม่ จากนั้น ส.ป.ก.จึงจะเข้าไปดำเนินการต่อไป

“ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก.เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการออกโฉนดที่ดินเกินจริงและรุกล้ำพื้นที่ ส.ป.ก. กว่า 130 ไร่นั้น ได้รายงานให้ทางส่วนกลางพิจารณาเอาผิดทางวินัยแล้ว ซึ่งจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดต่อไป” นายชำนาญกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า กรณีของโครงการคีรีมายา นั้นต้องดูว่าทางโครงการมีเจตนาหรือไม่ เพราะคดีอาญาผู้กระทำผิดต้องมีเจตนา แต่เท่าที่ดูข้อมูลทางโครงการเองซื้อที่ดินมาจากภาครัฐ และไม่มีเจตนาในการบุกรุก แต่อาจมีรายละเอียดบางอย่าง เช่น เรื่องการถมพื้นที่หรือเปลี่ยนแปลงลำรางสาธารณะ และปิดกั้นทางสาธารณะ ฉะนั้นกรณีของคีรีมายาอาจไม่มีคดีอาญา แต่จะเป็นคดีแพ่งที่หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องฟ้องร้องและให้ทางโครงการดำเนินการแก้ไขอย่างไรหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป