เด้งด่วน! รอไล่ออก “นายช่างรังวัดโคราช” หลังถูก ป.ป.ท.แจ้งเอาผิดฐานรุกป่า จัดสรรที่หลวงขายกว่า 130 ไร่ ด้าน “เลขาฯ ส.ป.ก.” ตกใจลูกน้องกล้าทำผิดกฎหมายรอ ป.ป.ท.ชี้มูล เผย “บิ๊กระดับจังหวัด-ผู้ว่าฯ ในอดีตฐานะคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด” อาจหนาวตามๆ กัน สั่งสอบข้อเท็จจริงอาจมีโยง-ฟันแม้เกษียณแล้ว ส่วน “คีรีมายา” พบมีคำสั่งอดีต ผวจ.โคราชในปี 2535 ให้ขยายพื้นที่ “นค.3 ทับที่ ส.ป.ก.” ทำ “คีรีมายา” มีปัญหาแนวเขตขยายพื้นที่ทับซ้อนพื้นที่ ส.ป.ก.เพิ่มกว่า 600 ไร่
วันนี้ (29 เม.ย.) มีรายงานว่า นายสรรเสริญ อัตจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้มีคำสั่งย้าย นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา ออกจากพื้นที่ จ.นครราชสีมาแล้ว โดยให้เข้าประจำที่ ส.ป.ก.กรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว เพื่อรอหนังสือชี้มูลความผิดนางพรทวีจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และ ส.ป.ก.ในพื้นที่เขาใหญ่ ที่ได้ออกโฉนดแบ่งขายกว่า 130 ไร่ เมื่อหนังสือจาก ป.ป.ท.ส่งมาถึงก็จะพิจารณาไล่ออกจากราชการ ในระหว่างนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อสอบสวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายสรรเสริญเปิดเผยว่า รู้สึกตกใจต่อกรณีนี้เพราะไม่เคยรู้ระแคะระคายมาก่อนว่ายังมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.กล้าทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ โดยหลักฐานในขณะนี้ที่ ป.ป.ท.สอบสวนพบบ้านที่อยู่อาศัยของนางพรทวีจริงที่บุกรุกป่า และ ส.ป.ก. แต่ตอนนี้มีญาติรับสมอ้างเป็นคนดูแล และยอมรับเป็นคนบุกรุกเอง
ส่วนกรณีที่ไปออก น.ส.3 ในเขต ส.ป.ก.นั้น น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวโยงไปถึงอดีตคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด ที่เกษียณไปแล้วด้วย จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบตรงนี้ เพราะนางพรทวี ได้ทำหน้าที่ช่างรังวัดในพื้นที่ โดยร่วมกับอดีตหัวหน้าปฏิรูปที่ดิน ลงพื้นที่ไปจัดสรรแปลงและออกโฉนด ซึ่งเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ที่ดินระดับจังหวัด เพราะอำนาจการออกโฉนดเป็นของที่ดินจังหวัด ถ้า ส.ป.ก.ไม่คัดค้านก็สามารถออกเอกสารสิทธิในที่ดินได้ เป็นลักษณะของ ส.ค.บวม คือออกโฉนดที่ดินเกินพื้นที่จริง ซึ่งให้สอบสวนเอาผิดตามกฎหมายทั้งหมดแม้จะเกษียณไปแล้ว
นายสรรเสริญ ยังกล่าวถึงความคืบหน้า “คีรีมายารีสอร์ท” ส.ป.ก.ตรวจพบว่าเป็นโฉนดออกตาม นค.3 ทั้งหมด ใน พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ของกระทรวงมหาดไทย จัดนิคมสร้างตน และกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดพื้นที่ให้เกษตรกรในพื้นที่นิคมด้วย โดยมีกำหนดห้ามซื้อขาย และต้องทำประโยชน์ครบ 5 ปี จึงไปออกโฉนดได้ แต่กลับมีการนำออกขายให้คีรีมายา และ คีรีมายา เอง ยังมีปัญหาแนวเขตขยายพื้นที่ทับซ้อนพื้นที่ ส.ป.ก.เพิ่มกว่า 600 ไร่ โดยมีการออก น.ค.3 ทับที่ ส.ป.ก.
จากการตรวจสอบพบว่าออกตามคำสั่งอดีต ผวจ.นครราชสีมา ในปี 2535 ให้ขยายพื้นที่นิคมออกมา โดยตนได้สั่งให้ นางเปรมจิต สังขพงษ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. ไปคัดค้านพื้นที่ตรงนี้ว่ายังเป็นเขตของ ส.ป.ก. พร้อมให้เอกซเรย์พื้นที่ทั้งโคราช และ อ.ปากช่อง ที่มีปัญหาการเข้าไปครอบครองจากคนดัง นักการเมืองใหญ่ นายทุน โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ประมาณ 4 หมื่นกว่าไร่ ที่เป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. รวมทั้งโครงการมูนแดนซ์ ที่ตั้งบ้านพักของพิธีกรดังด้วย
มีรายงานว่า ผู้ว่าฯนครราชสีมา ปี 2535 คือ นายดำรง รัตนพานิช อยู่ในตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2533 - 30 ก.ย. 2537
มีรายงานว่า ก่อนหน้าคณะจากกระทรวงยุติธรรมนำโดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงได้เดินทางไปยังที่ดินของนางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ตรงข้ามภูพบฟ้า ใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และ ส.ป.ก. โดยพบบ้านพัก ลักษณะปลูกสร้างเป็นรีสอร์ตชั้นเดียวตั้งอยู่ติดตีนเขา และพื้นที่โดยรอบกำลังมีการถมดินปรับพื้นที่ รวมทั้งมีการสร้างบ้านพักหรูหลังใหญ่สีขาวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันด้วย
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นางพรทวีได้นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีเนื้อที่ 30 ไร่นำมาออกโฉนดที่ดินเนื้อที่กว่า 155 ไร่ โดยออกในนามชื่อสามีของตัวเอง และได้ออกโฉนดที่ดินรุกล้ำเข้าไปในเขตที่ดิน ส.ป.ก.มากกว่า 130 ไร่ และมีการจัดสรรขายให้แก่ข้าราชการหลายคน รวมทั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ราคาไร่ละกว่า 10 ล้านบาท
จากการตรวจสอบ ส.ค.1 แปลงดังกล่าวมีพื้นที่ข้างเคียงจดป่า ซึ่งตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินให้ถือระยะตามที่ระบุไว้ในหลักฐาน ส.ค.1 กรณีนี้หากถือตามระยะจะออกโฉนดที่ดินได้ 25 ไร่เท่านั้น แต่มีการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่มีปัญหาร่วมกันออกเอกสารสิทธิเขาหนองเชื่อม และเป็นพื้นที่ทหารพันรบพิเศษลพบุรี ทุจริตออกโฉนดที่ดินครั้งนี้ ซึ่งขบวนการทุจริตในเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรวม 9 คน ซึ่งมีปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี (ขณะนั้นเป็นนิติกรชำนาญการพิเศษ ส.ป.ก.) รวมอยู่ด้วย