นครพนม-บัดซบ! ประจานตำรวจทั้งแผ่นดิน เหตุเกิดที่อำเภอศรีสงคราม นครพนม กรณี เด็กหญิงวัย 14 ปีถูกฆ่าข่มขืนนานร่วม 2 ปี จนป่านนี้คดีไม่คืบ ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไปหน่วยงานใดเงียบเป็นเป่าสาก จนแม่ต้องติดป้ายฝาบ้านร้องทุกข์ไร้หน่วยงานดูแล ผวาหนักประกาศขายบ้านหนี กลัวโจรชั่วกลับมาทำร้าย
จากกรณี น้องแแจง (นามสมมติ) วัย 14 ปี ถูกฆ่าข่มขืนทิ้งศพลำห้วยข้างบ้านนานเกือบ 2 ปีคดีไม่คืบ ผู้เป็นแม่ต้องเข้าร้องทุกข์แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ยังเงียบเป็นเป่าสาก ต้องขึ้นป้ายติดฝาบ้านขอความเป็นธรรม เตรียมประกาศขายบ้าน หอบครอบครัวหนี หวั่นโจรชั่วกลับมาทำร้าย
ล่าสุดครอบครัวน้องแจงได้เข้าร้องทุกข์ ครูแก้ว หรือนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หวังเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ
วันนี้ (14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเกิดคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมปริศนาฆ่าทิ้งศพน้องแจง (นามสมมติ) อายุ 14 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กกิจกรรมเป็นนางรำของโรงเรียน ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเบาะแสคนร้าย หลังเวลาล่วงเลยมานานเกือบ 2 ปี
เหตุร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2556 ขณะผู้ตายได้อาศัยอยู่กับยายเพียงลำพัง เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ หาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเนื่องจากฐานะยากจน และช่วงเย็นวันเกิดเหตุน้องแจงได้หายตัวไปแบบไม่ทราบสาเหตุหลังไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้าน จนชาวบ้านพบกลายเป็นศพลอยอืดปริศนาเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2556 บริเวณลำห้วยโคน ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 400 เมตร ทางเข้าหมู่บ้านนาอินทร์ ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมชาย พิมพ์ชู อดีต ผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ดำรงตำแหน่งขณะนั้น พร้อมด้วย ร.ต.อ.พีรวิทญ์ อุทัยแสน พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ประสานงานกับเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นจากการชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่พบศพอยู่ในสภาพลอยอืด ไม่สามารถดูรูปร่างเค้าโครงใบหน้าได้ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
แต่มีสิ่งผิดปกติคือกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ในสภาพกลับด้าน ไม่สวมกางเกงใน และเสื้อชั้นในอยู่ในลักษณะได้รับความเสียหายจากการถูกดึง
ทั้งนี้ คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ตำรวจเชื่อว่าผู้ตายถูกฆาตกรรมก่อนนำศพมาทิ้งลงลำห้วย พร้อมได้นำศพส่งไปตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ก่อนนำศพส่งกลับมาให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 19 ส.ค. 2556
แต่เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี คดียังไม่มีความคืบหน้า และไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลให้ความช่วยเหลือ รวมถึงทางด้านหน่วยงานตำรวจ สภ.ศรีสงครามยังไม่สามารถให้ความกระจ่างเกี่ยวกับคดีได้
ขณะเดียวกันทางด้าน พ่อและแม่ของเด็กสาวผู้ตาย พร้อมญาติพี่น้อง ได้พยายามออกมาเรียกร้องวิงวอนให้ทางตำรวจ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งสืบสวนติดตามเบาะแส จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล จนรู้สึกหมดหวัง ต้องขึ้นป้ายติดฝาบ้านเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ผ่านไปมา รวมถึงสังคมออนไลน์ที่นำเรื่องราวสุดรันทดไปเผยแพร่ และประกาศขายบ้านพักอาศัยเพื่อพาสามีกับลูกอีก 1 คนหนีไปอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความความปลอดภัย หวั่นว่าคนร้ายที่เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่กลับมาทำร้าย
ล่าสุดได้เดินทางไปยื่นเอกสารร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเป็นคนพื้นที่อำเภอเดียวกัน รวมถึง นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ถือเป็นที่พึ่งสุดท้ายช่วยประสานงานไปยังตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ รื้อคดีมาสอบสวน ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องทุกข์ว่า จะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือต่อไป ยอมรับว่าสงสารครอบครัวนี้มากเพราะฐานะยากจนแต่ต้องมาเกิดเรื่องราวเลวร้ายกับครอบครัว ซ้ำร้ายไม่สามารถจับคนร้ายได้ ลูกสาวต้องตายฟรี ตนในฐานะเคยทำงานดูแลทุกข์สุขชาวบ้านขอฝากไปถึงหน่วยงานตำรวจ หน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
ทั้งนี้ เพราะคดีสะเทือนขวัญแบบนี้หากไม่สามารถจับคนร้ายได้ชาวบ้านต้องหวาดผวา หาความปลอดภัยไม่มี แล้วประชาชนจะพึ่งใคร
ด้าน แม่ผู้ตาย กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาหลังลูกสาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม หนำซ้ำกลับไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจ เคยร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมไปหลายครั้งกลับไม่คืบหน้าไม่ได้รับการสนใจ ซ้ำเติมครอบครัวไปอีก ทั้งที่มีฐานะยากจน ยอมรับไม่มีเงินที่จะไปวิ่งเต้นคดี เพราะต้องทำงานรับจ้าง ไม่รู้จักใคร ไม่มีเส้นสาย ร้องทุกข์ไปไม่มีใครสนใจ จนต้องขึ้นป้ายติดฝาบ้านร้องทุกข์แทน ที่สำคัญความปลอดภัยในชีวิตคนในครอบครัวไม่มีเลย นอนไม่หลับ
“หากยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ตนจำเป็นต้องประกาศขายบ้านหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะหมู่บ้านที่อยู่อาศัยไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดผวา อยากให้จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ให้วิญญาณลูกสาวหมดห่วง จะได้ไปผุดไปเกิดสักที”