นครพนม - สภ.ศรีสงคราม เพิ่งตื่นรื้อคดี “น้องแวว” เด็กหญิงอายุ 14 ขวบ ถูกฆ่าข่มขืนเมื่อกลางปี 56 หลังแม่ร้องทุกข์นานเกือบ 2 ปี คดีไม่คืบหน้า ต้องติดป้ายฝาบ้านขอความเป็นธรรม หวั่นโจรชั่วหวนมาทำร้าย ด้าน ผกก. ชี้รู้เบาะแสคนร้ายแล้วแต่มีปัญหาพยานหลักฐานอ่อน ต้องเก็บหลักฐานเพิ่ม
วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด กรณี นายธวัชชัย อุทัยคา อายุ 37 ปี พร้อมด้วย นางบำเพ็ญ รัตนะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.7 บ้านนาอินทร์ ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมปริศนาฆ่าทิ้งศพลูกสาว คือ ด.ญ ทิพรัตน์ รัตนะ หรือน้องแวว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านนาอินทร์นาโอนาคอยพัฒนา ซึ่งเป็นเด็กกิจกรรมนางรำของโรงเรียนยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเบาะแสคนร้าย หลังเวลาล่วงเลยมานานเกือบ 2 ปี
โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.56 ขณะผู้ตายที่อาศัยอยู่กับยายเพียงลำพัง เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ หาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากฐานะยากจน และช่วงเย็นวันเกิดเหตุน้องแวว ได้หายตัวไปแบบไม่ทราบสาเหตุ หลังไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้าน ต่อมา วันที่ 18 ส.ค.56 ชาวบ้านพบกลายเป็นศพลอยอืดปริศนาบริเวณลำห้วยโคน ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 400 เมตร ทางเข้าหมู่บ้านนาอินทร์ ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ทั้งนี้ พ่อและแม่ รวมถึงเพื่อนบ้านต่างเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ ตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาได้ร้องเรียนติดตามคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ หวั่นว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงได้ประกาศขายบ้านพักอาศัยเพื่อจะย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัด และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้ไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเป็นคนพื้นที่อำเภอเดียวกัน รวมถึง นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ช่วยประสานงานไปยังตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน ผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้ประชุมรื้อคดีขึ้นมาใหม่ พร้อมกับตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน สอบพยานเพิ่มเติมเพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.โชคชัย เปิดเผยว่า ตนเพิ่งย้ายมารับหน้าที่ได้ไม่กี่เดือน แต่จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานคดีดังกล่าวพบว่า ทางตำรวจเคยเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เพราะจากหลักฐานเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ และเป็นคนใกล้ชิดกับผู้ตาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอหมายจับต่อศาล จ.นครพนม แต่พยานหลักฐานไม่เพียงพอจึงต้องสอบสวนเก็บหลักฐานเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีปัญหาติดขัดเรื่องพยานหลักฐานอ่อนจึงเป็นปัญหาให้คดีล่าช้า ซึ่งยืนยันว่า ตำรวจจะทำงานเต็มที่ คดีไม่ล้มแน่นอน
ด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเคยทำงานดูแลชาวบ้านในพื้นที่ และรู้จักกับพ่อแม่เด็กที่ตายจึงได้มาขอความช่วยเหลือเพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใคร เนื่องจากคดีไม่คืบหน้า เบื้องต้น ได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้ช่วยกำกับดูแล เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ยอมรับเป็นครอบครัวที่น่าสงสารมาก ยิ่งจับคนร้ายไม่ได้ต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา
อีกทั้งคนในหมู่บ้านต่างก็อยู่ในความหวาดกลัวเพราะเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เรื่องนี้ตนขอวิงวอนไปยังหน่วยงานรับผิดชอบให้เข้าไปดูแลช่วยเหลือเร่งด่วน คดีแบบนี้หากยังทำไม่สำเร็จ แล้วต่อไปชาวบ้านจะไปพึ่งใคร ไม่อยากให้ปล่อยปละละเลย ตอนนี้ครอบครัวผู้เสียหายจะขายบ้านหนีแล้ว
