จันทบุรี - 2 สามีภรรยา หอบทุเรียนอ่อนเข้าแจ้งความต่อตำรวจเมืองจันทบุรี หลังถูกพ่อค้านำทุเรียนอ่อนมาขายให้ ขณะที่ผู้ว่าฯ จันทบุรี สั่งดำเนินคดีพ่อค้าขายทุเรียนอ่อนด้อยคุณภาพแก่นักท่องเที่ยว เพราะสร้างความเสียหายต่อผลไม้เมืองจันท์
วันนี้ (29 เม.ย.) ที่ สภ.เมืองจันทบุรี นางสยามมล ฉายะจินดา พร้อมด้วย นายธนวัสท์ ฉายะจินดา 2 สามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.นิรัญ มีศิริ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ให้ดำเนินคดีต่อพ่อค้าทุเรียนอ่อนที่เปิดร้านจำหน่ายแผงลอยริมถนนสุขุมวิท ตลาดผลไม้ศาลาปากแซง ริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เลขที่ 81/31 หมู่ที่ 11 ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ฐานหลอกลวงให้ซื้อทุเรียนอ่อนแล้วกินไม่ได้
โดย นางสยามมล ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า สามีของตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.จันทบุรี มีที่ตั้งอยู่อำเภอมะขาม ได้ซื้อทุเรียนจากแผงของเฮียน้อย เจ๊น้อย ริมถนนสุขุมวิท ตลาดผลไม้ศาลาปากแซง เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง น้ำหนัก 4 กิโลครึ่ง จำนวน 1 ลูก ในราคา 450 บาท เพื่อนำไปฝากญาติที่จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยก่อนซื้อได้บอกต่อคนขายว่า จะรับประทานตอนค่ำ แต่เมื่อเดินทางไปถึงบ้านพักที่จังหวัดสระบุรี ลองปอกทุเรียนดูก็ปรากฏว่า เป็นทุเรียนอ่อนกินไม่ได้ จนถึงวันนี้ก็ยังอ่อนอยู่จึงเสียความรู้สึก และไม่อยากให้ผู้บริโภคคนอื่นพบเหตุการณ์เช่นตน จึงได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพถ่ายลงเฟซบุ๊กส่วนตัว และมีเพื่อนแชร์ต่อหลายราย จนกระทั่งวันนี้ได้เดินทางเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี และแจ้งความเพื่อเอาผิดต่อพ่อค้าทุเรียนอ่อน หลังทราบว่า ทางจังหวัดจันทบุรี มีมาตรการจริงจังต่อผู้ค้าทุเรียนอ่อน และอยากให้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อป้องปราม และไม่อยากให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ
ด้าน นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้สั่งการให้เกษตรจังหวัด พร้อมชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามทุเรียนอ่อนจังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบทันที พบร้านแผงลอยที่จำหน่ายทุเรียนอ่อนด้อยคุณภาพอยู่ตามที่ผู้เสียหายแจ้งความ ที่ตลาดผลไม้ศาลาปากแซง ริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เลขที่ 81/31 หมู่ที่ 11 ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
จึงแจ้งให้เจ้าของร้านรับทราบข้อกล่าวหา และทางเจ้าของร้านก็ยอมรับว่า เป็นความประมาทของตนเองที่ไม่ดูให้ดี โดยวันที่ผู้เสียหายมาซื้อตนเองกำลังวุ่นกับการขายทุเรียนให้ลูกค้ารายอื่นอยู่จึงให้ลูกน้อง คือ นายวสันต์ เกษี เป็นคนขายแทน และขอยอมรับผิดชดใช้ให้ แต่ทางผู้เสียหายยืนยันไม่ยินยอม และขอดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อเป็นคดีตัวอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนัดไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีต่อไป
สำหรับความผิดในการซื้อขายทุเรียนอ่อน จะถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ จังหวัดจันทบุรี ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อน และหากผู้บริโภคซื้อทุเรียนจากจังหวัดจันทบุรี แล้วพบทุเรียนอ่อนสามารถเอาผิดต่อผู้ขายได้ และสามารถร้องได้ที่ชุดปฏิบัติการจังหวัดจันทบุรีที่อยู่ตามตลาดผลไม้ต่างๆ หรือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีจะเป็นไปตามหลักฐาน ดังนั้น ผู้ซื้อต้องตรวจสอบการรับรองคุณภาพของทางร้านให้ชัดเจน และเพื่อป้องกันการล่อซื้อ หรือกลั่นแกล้งทางการค้า จังหวัดจันทบุรีมีเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเชิงลึกอย่างชัดเจน หากพบเป็นการกลั่นแกล้งผู้ขาย ผู้แจ้งก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน