xs
xsm
sm
md
lg

ฌาปณกิจแล้ว! ศพผู้ต้องหายาเสพติดผูกคอตายในเซฟเฮาส์ พ่อแม่ยันเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมเต็มที่ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศพผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ผูกคอตายคาเซฟเฮาส์ที่ จ.สงขลา ได้ทำพิธีฌาปณกิจศพเรียบร้อยแล้ว ด้านครอบครัวยืนยันเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมจนกว่าคนทำผิดจะได้รับโทษ วอนเลิกใช้เซฟเฮาส์เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

   


ความคืบหน้าคดี นายธีระพัฒน์ เสรีเกียรติดิลก อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ผูกคอตายอย่างมีเงื่อนงำภายในเซฟเฮาส์ของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ตำรวจชุดจับกุมทั้ง 10 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทันที และพ่อแม่ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบเพื่อดำเนินคดีใน 4 ข้อหา คือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยว เรียกรับเงิน และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และยืนยันจะสู้คดีให้ถึงที่สุดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ลูกชาย

ล่าสุด วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของ นายธีระพัฒน์ ได้ทำพิธีฌาปณกิจศพแล้วที่วัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้คดียังไม่สิ้นสุด โดยมีญาติ และกลุ่มเพื่อนของนายธีระพัฒน์ มาร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายสมชัย เสรีเกียรติดิลก พ่อของนายธีระพัฒน์ เปิดเผยว่า เหตุที่ครอบครัวตัดสินใจทำพิธีฌาปนกิจศพแม้ว่าคดียังไม่สิ้นสุด เนื่องจากหลักฐานผลการชันสูตรศพทุกอย่างได้มีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และทางแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เก็บหลักฐานเอาไว้แล้ว และแม้ศพลูกชายจะเผาไปแล้วแต่ครอบครัวก็จะยังสู้คดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากตำรวจชุดจับกุมทั้ง 10 นาย ยังไม่ได้โทษทางอาญา และคดีนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

ด้านนางจันทรา เสรีเกียรติดิลก ผู้เป็นแม่กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งคลี่คลายคดีนี้เพราะเรื่องยังเงียบ และยังไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยต้องการให้กรณีลูกชายตนเป็นคดีตัวอย่าง และเป็นศพสุดท้าย และจะเดินหน้าเรียกร้องสิทธิ และความเป็นธรรมให้แก่ลูกชาย เพราะต้องการให้คนที่ทำผิดต้องได้รับโทษ พร้อมกับวิงวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยกเลิกการตั้งเซฟเฮาส์เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น