ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ความคืบหน้าคดีผู้ต้องหาผูกคอตายในเซฟเฮาส์ใน อ.หาดใหญ่ ด้านตำรวจกองปราบปราม สอบสวนพยานแวดล้อมและรวบรวมหลักฐานเสร็จแล้วรอผลสรุปอีกครั้ง ขณะที่พ่อผู้ตายเตรียมเข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปราม ดำเนินคดีต่อตำรวจชุดจับกุมทั้ง 10 นาย
ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง คดี นายธีระพัฒน์ เสรีเกียรติดิลก อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ผูกคอตายอย่างมีเงื่อนงำภายในเซฟเฮาส์ของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ตำรวจชุดจับกุมทั้ง 10 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน
วันนี้ (4 เม.ย.) ล่าสุด มีรายงานว่าในส่วนของคณะทำงานของตำรวจกองปราบปรามซึ่งลงพื้นที่มาสอบสวนคดีนี้ ได้สอบสวนพยานแวดล้อมทั้งญาติของผู้ตาย และตำรวจชุดจับกับทั้ง 10 นาย ใกล้แล้วเสร็จ รวมถึงพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งผลชันสูตรศพ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และอยู่ในขั้นตอนของการสรุปผลการสอบสวนว่าเป็นการผูกคอตายเอง หรือมาจากฆาตกรรมอำพราง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากหลักฐานทั้งหมดที่จะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงสาเหตุของการผูกคอตาย
นอกจากนี้ ทาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการตรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาร่วมคลี่คลายคดีนี้ด้วย โดยเมื่อวานนี้ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบภายในเซฟเฮาส์ และดูผลการชันสูตรศพเพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุการตาย เพื่อช่วยคลี่คลายคดีนี้อีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน นายสมชัย เสรีเกียรติดิลก พ่อของผู้ตายเปิดเผยว่า เตรียมเดินทางนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีต่อตำรวจชุดจับกุมทั้ง10 นาย ใน 4 ข้อหา คือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยว เรียกรับเงิน และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากคดีนี้ไม่สามารถเข้าแจ้งความต่อตำรวจในพื้นที่ได้ เพราะมีการโอนคดีทั้งหมดไปให้ตำรวจกองปราบปรามดำเนินการ
ส่วนศพของ นายธีระพัฒน์ หลังจากที่ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขณะนี้ได้นำกลับมายัง อ.หาดใหญ่แล้ว และญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลต่อที่วัดคลองเรียน และยังไม่มีกำหนดฌาปณกิจจนกว่าคดีสิ้นสุด