ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “หมอพรทิพย์” เผยผลการชันสูตรศพผู้ต้องหาผูกคอตายคาเซฟเฮาส์ ยันผู้ตายแขวนคอในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้านแม่ผู้ตายเรียกร้องให้ตรวจดีเอ็นเอตำรวจทั้ง 10 นาย และนำตัวมาแถลงข่าว วอน ผบ.ตร.เลิกใช้ “เซฟเฮาส์” ควบคุมตัวผู้ต้องหา เผยขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ต่อการจากไปของลูก
วันนี้ (3 เม.ย.) ความคืบหน้าคดี นายธีระพัฒน์ เสรีเกียรติดิลก อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ผูกคอตายอย่างมีเงื่อนงำภายในเซฟเฮาส์ของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 9 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ลงพื้นที่รับฟังผลการชันสูตรศพของทีมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.)
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการรับฟังบรรยายสรุป และดูรูปถ่ายทั้งหมด พบว่า ผู้ตายมีลักษณะบาดแผลที่เข้ากันได้กับการผูกคอ หรือแขวนคอตาย แต่ไม่ปรากฏลักษณะที่ทำให้สามารถช่วยยืนยันยันได้อย่างชัดเจน เช่น ลิ้นจุกปาก แต่สิ่งที่ทางแพทย์ได้ทำการตรวจ และยืนยันได้ว่า ผู้ตายแขวนคอในขณะที่ยังมีชีวิต คือ ร่องรอยบาดแผลบริเวณลำคอที่มีลักษณะเฉียงขึ้น และการตัดชิ้นเนื้อโดยพยาธิแพทย์พบว่า มีเลือดออก ซึ่งถ้าตายก่อนแล้วแขวนคอทีหลังจะไม่มีเลือดไหลออกมา
ส่วนประเด็นซึ่งเป็นข้อกังขาของครอบครัว และญาติผู้ตาย โดยเฉพาะร่องรอยบอบช้ำ และบาดแผลตามร่างกายนั้น พบว่า ที่บริเวณข้อมือขวามีบาดแผลเป็นเส้นคู่ขนาน ซึ่งจากประสบการณ์เชื่อว่า น่าจะเกิดจากรอยกุญแจมือ รวมทั้งยังพบร่องรอยของการจับแขน และพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นในซอกเล็บของผู้ตายด้วย และรอยช้ำที่บริเวณต้นขาจะต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เกิดจากการถูกทำร้าย หรือว่าเกิดจากการนำศพลงจากที่เกิดเหตุกันแน่ ทั้งนี้ คำตอบในเรื่องของการผูกคอตายที่ดีที่สุดว่าใครเป็นคนแขวนคือดีเอ็นเอจากหลักฐานที่พบทั้งหมด
ขณะที่บาดแผลกระดูกซี่โครงหัก ทางแพทย์ตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏรอยช้ำจากการทำร้าย หรือปั๊มหัวใจ โดยหลังจากที่ได้ผ่าตัดผ่านชั้นผิวหนังเข้าไปพบร่องรอยของกระดูกหักที่ชัดเจน แต่ไม่มีเลือดออก ซึ่งทางการแพทย์ระบุว่า บาดแผลดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการตาย หรือเพิ่งตายใหม่ๆ ส่วนปอดไม่ได้รับการกระทบกระเทือน จึงระบุได้ว่า กระดูกซี่โครงไม่ได้หักจนไปทิ่มปอด และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนศพของ นายธีระพัฒน์ ขณะนี้ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แล้ว
ด้าน นางจันทรา เสรีเกียรติดิลก อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และพอใจผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ต้องการให้นำตำรวจทั้ง 10 นาย มาตรวจดีเอ็นเอด้วย รวมทั้งนำมาแถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนได้เห็นหน้า นอกจากนี้ อยากเรียกร้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ยกเลิกการใช้เซฟเฮาส์ควบคุมผู้ต้องหา หากมีการจับกุมก็ให้นำไปสอบสวนที่โรงพัก เพราะญาติจะได้พบ และติดต่อได้ไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับลูกของคนอื่นอีก พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณทุกฝ่าย รวมทั้งวิงวอนไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ยกเลิกเซฟเฮาส์ เพราะยังทำใจไม่ได้ที่ไปพบลูกนอนตายคาเซฟเฮาส์หลังจากที่ตำรวจติดต่อให้ไปรับตัว และได้รับคำตอบว่าลูกเสียใจที่พ่อไม่ไปช่วยจึงแขวนคอตายซึ่งเป็นไปไม่ได้
