เชียงใหม่ - นิติกรเทศบาลนครเชียงใหม่ขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีสัปเหร่อสุสานหายยา สองผัว-เมียลักลอบนำเศษชิ้นส่วนมนุษย์มาเผา และจำหน่ายให้จอมขมังเวท
วันนี้ (27 เม.ย.) นางละเอียด ศรีล้อม นิติกรเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้รับมอบอำนาจจากนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.มาโนช เยี่ยมเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีต่อนายสุทัศน์ และนางสมบูรณ์ เนรมิตร สัปเหร่อสองสามีภรรยา สุสานหายยา อ.เมืองเชียงใหม่
หลังลักลอบนำเศษชิ้นเนื้อและอวัยวะมนุษย์จากโรงพยาบาลหลายแห่งมาเผาบริเวณสุสานหายยา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ได้จำนวน 19 ถุงเมื่อหลายวันก่อน และยังถูกนายเฉลิม อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ชัดทอดเป็นผู้จำหน่ายซากทารกเพื่อนำไปทำพิธีทางไสยศาสตร์
จากนั้นพนักงานสอบสวนฯ ได้เดินทางไปสอบปากคำแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลมหานครเชียงใหม่ ที่ตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้อที่พบใต้เมรุสุสานหายยา เพื่อประกอบสำนวนว่า เป็นชิ้นส่วนมนุษย์หรือไม่ และเตรียมแจ้งข้อหาสองสามีภรรยา สัปเหร่อสุสานหายยา ฐานขนเก็บหรือกำจัดมูลฝอยติดเชื้อโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 มาตรา 6 และมาตรา 68/1
โดยคาดว่าอย่างช้าไม่เกินพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) หรือหากเร็วก็จะเป็นเย็นวันนี้ จะเรียกนายสุทัศน์และภรรยามารับทราบข้อกล่าวหา และส่งฟ้องต่อศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่นายสุทัศน์ เนรมิตร หรือสัปเหร่อนวย อายุ 58 ปี นั้น ล่าสุดทางผู้บังคับบัญชา ได้สั่งย้ายไปให้ช่วยราชการที่แขวงเม็งราย และห้ามมายุ่งเกี่ยวกับการเผาศพอีก พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยที่ลักลอบเผาชิ้นเนื้อติดเชื้อของโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว
ด้าน ศ.นพ.นิสิต วรรธนัจฉริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือชี้แจงไปตามสื่อต่างๆ ว่า โรงพยาบาลมีชิ้นเนื้อจากการผ่าตัดเพื่อส่งตรวจด้านพยาธิวิทยาเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค หรือประเมินความรุนแรงของโรคมะเร็ง เพื่อวางแผนการรักษา เช่น ลำไส้ ปอด กระดูก เต้านม มดลูก และมีรก จากการคลอดบุตรในโรงพยาบาล ตลอดจนศพคดี ศพไร้ญาติ ที่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจนำส่งมาเพื่อชันสูตรทางนิติเวชศาสตร์ รวมถึงเศษชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ จากการเรียนการสอนทางห้องปฏิบัติการของภาควิชากายวิภาคศาสตร์
การจัดการชิ้นเนื้อและชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ของคณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ในอดีตที่ผ่านมา ได้ส่งให้สุสานในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ทำการเผาทำลาย กระทั่งเมื่อหลายปีก่อนเทศบาลนครเชียงใหม่แจ้งว่าไม่สามารถรับดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากชิ้นเนื้อที่ส่งมีจำนวนมากเกินขีดความสามารถของสุสาน โรงพยาบาลจึงได้ติดต่อขอบริการจากสุสานของวัดแห่งหนึ่งนอกเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการส่งไปเผาสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตามปริมาณชิ้นเนื้อ และศพแต่ละช่วงเวลา และไม่เคยมีปัญหากับชุมชนใกล้เคียงวัดดังกล่าวเลย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เปิดเผยต่อว่า ในกรณีที่เป็นข่าวพบชิ้นเนื้อจำนวนมากรอการเผาทำลายที่สุสานหายยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นชิ้นเนื้อของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่