ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดี “พรชนก-สามี” วางแผนฆ่าหั่นศพครูชาวญี่ปุ่น 24 พ.ย.นี้ สามืให้การรับสารภาพข้อหาฆ่า อ้างลงมือเพียงคนเดียว
ที่ห้องพิจารณาคดี 912 วันที่ 9 มี.ค.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานและสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.4330/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง และนางพรชนก ไชยะปะ อาชีพธุรกิจส่วนตัว อายุ 48 ปี สองสามีภรรยาร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนมีไว้เพื่อนำออก และใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น
คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์จำเลยทั้งสองว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. - 13 ต.ค. 2557 ต่อเนื่องเกี่ยวพันกันโดยตลอด จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน คือ ได้หน่วงเหนี่ยวกักขังนายโยชิโนริ ชิมาโตะ (MR.YOSHINORI SHIMATO) ครูสอนภาษาญี่ปุ่น อายุ 79 ปี ที่มีอาการป่วยนอนอยู่บนเตียงภายในบ้านย่านสมุทรปราการ พวกจำเลยได้วางแผนและใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวแทงและฟันนายโยชิโนริตามร่างกายอย่างแห่งหลายครั้ง แล้วดึงตัวลงจากเตียงก่อนใช้มือจับศีรษะกดกับหมอนจนนายโยชิโนริขาดใจตาย จากนั้นร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้นทำลายศพด้วยการใช้มีดหั่นชำแหละชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ เป็นชิ้นๆ ไว้ในอ่างอาบน้ำแล้วเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนศพใส่ถุงถ่วงด้วยทราย 4 ถุงนำไปทิ้งน้ำที่คลองนางทิ้ง หมู่ 7 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังฆ่าผู้ตายแล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันลักเอาเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าข้างแบบหนัง สมุดเงินฝากธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพสาขาสีลม ป้ายวิญญาณบรรพบุรุษและอื่นๆ ไป ทั้งจำเลยที่ 2 ได้สวมวิกปลอมใส่แว่นตาดำ สวมหมวกมีปีกลักษณะอำพรางใบหน้าก่อนใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเอาเงินสดหลายครั้ง เป็นเงินกว่า 5 แสนบาทโดยทุจริต
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วนศพของนายโยชิโนริผู้ตาย และติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง แจ้งข้อหาดำเนินคดี โดยในชั้นสอบสวนนายสมชาย จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซ่อนเร้นทำลายศพ ลักทรัพย์ผู้ตาย แต่ปฏิเสธความผิดข้อหาลักเงินสดผู้ตายจากตู้เอทีเอ็ม ส่วนนางพรชนก จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน โดยวันนี้อัยการโจทก์ จำเลยทั้งสองและทนายความเดินทางมาศาล
โดยศาลได้สอบถามจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพข้อหาฆ่าคนตายและลงมือเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้ว่าไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธข้อหาฆ่าคนตาย แต่รับสารภาพข้อหาลักทรัพย์ จากนั้นอัยการโจทก์แถลงยื่นส่งบัญชีเอกสารจำนวน 88 รายการ พร้อมขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 30 กว่าปาก เช่น พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง สน.บางเสาธง แพทย์ที่ชันสูตรชิ้นส่วนมนุษย์ และแพทย์ที่พิสูจน์ดีเอ็นเอของผู้ตายกับบุตรชายที่เป็นชาวญี่ปุ่น ใช้ระยะเวลา 6 นัด ส่วนทนายจำเลยแถลงขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 4 ปาก คือ จำเลยที่ 1 และ 2 กับบุตรของจำเลยที่ 1 และบุตรของจำเลยที่ 2 ซึ่งเกิดกับสามีชาวญี่ปุ่นคนก่อน ใช้ระยะเวลา 1 นัด
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต พร้อมนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ 24 พ.ย. 2558 เวลา 09.00 น.
