กาฬสินธุ์ - ตัวแทนเกษตรกรหลายจังหวัด เข้าชมแปลงสาธิตปลูกถั่วลิสงที่กาฬสินธุ์ หวังพลิกผืนนาปลูกถั่วลิสงทำเงิน ขณะที่บริษัทเอกชนซึ่งเป็นแหล่งรับซื้อผลผลิต เร่งสร้างเครื่องสีถั่วรองรับผลผลิต ประกาศให้ราคาประกันสูงถึงตันละ 2 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงถั่วลิสงของนายไสว ทับธานี บ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้มีตัวแทนเกษตรกรจาก จ.ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม และ จ.ขอนแก่น เข้าชมผลการดำเนินการเพื่อเป็นกรณีศึกษา ทั้งในส่วนของการติดตามอัตราการงอกของเมล็ดพันธุ์ การทำแปลงปลูกที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การกำจัดวัชพืช และการบริหารจัดการต่างๆ
นายไสว ทับธานี เจ้าของแปลงถั่วลิสงกล่าวว่า เดิมพื้นที่ตรงนี้เคยปลูกข้าวนาปีและนาปรัง แต่การปลูกข้าวมีปัญหามาก ทั้งต้นทุนการผลิตสูง ราคารับซื้อไม่แน่นอน โดยเฉพาะนาปรังที่เสี่ยงกับการได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง จึงหันมาปลูกถั่วลิสง 5 ไร่ ซึ่งปลูกง่าย ดูแลง่าย ใช้น้ำน้อย
ที่สำคัญ ทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้ดี อายุ 120 วันก็เก็บเกี่ยว และอีกไม่กี่วันก็จะได้ลงมือเก็บเกี่ยวแล้ว คาดว่าจะได้ผลผลิตสูงกว่าข้าว
ด้านนายสมศักดิ์ บัวอร่ามวิไล ผจก.บริษัท ไทยพีนัท ซัพพลาย จำกัด แหล่งรับซื้อผลผลิตถั่วลิสงกล่าวว่า ถั่วลิสงเป็นพืชเศรษฐกิจซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก แต่พื้นที่ปลูกลดลงเนื่องจากเกษตรกรหันไปปลูกข้าว ในปีนี้ที่ราคารับซื้อข้าวไม่แน่นอน ประสบปัญหาภัยแล้ง จึงได้ร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่นหลายแห่ง และกลุ่มเกษตรกรหลายกลุ่ม ในหลายจังหวัด ส่งเสริมเกษตรกรปลูกถั่วลิสง มีการบันทึกข้อตกลงร่วมกัน มีการประกันราคารับซื้อผลผลิตแน่นอน
โดยถั่วลิสงสด ราคารับซื้อประกันขั้นต่ำตันละ 1 หมื่นบาท และถั่วลิสงแห้ง ราคารับซื้อประกันขั้นต่ำ 2 หมื่นบาท คาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีการขยายพื้นที่ปลูกถั่วลิสงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรผู้ปลูกถั่วลิสง ขณะนี้ได้เร่งผลิตเครื่องสีถั่วหรือเครื่องคัดแยกเมล็ดไว้หลายเครื่อง เพื่อบริการเกษตรกร ที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้