xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีเอฟ ส่งมอบนโยบายจัดหา และแนวปฏิบัติแก่คู่ค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ซีพีเอฟ ส่งมอบนโยบายจัดหา และแนวปฏิบัติแก่คู่ค้า มุ่งสร้างความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เดินหน้าส่งมอบนโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน และแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ โดยจะนำร่องในคู่ค้าธุรกิจหลัก (Critical Supplier) 3 กลุ่ม คือ กลุ่มวัตถุดิบหลักทางการเกษตร กลุ่มเครื่องปรุง และกลุ่มบรรจุภัณฑ์กว่า 200 ราย เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และมีส่วนร่วมดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมของบริษัท และคู่ค้าธุรกิจให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่การเติบโตในระยะยาวมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายตรวจประเมินคู่ค้าธุรกิจหลักได้ครบ 100% ภายในปี 2562

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ซีพีเอฟ ตระหนักดีว่า “คู่ค้าธุรกิจ” คือ ห่วงโซ่สำคัญของความสำเร็จที่มั่นคง และยั่งยืนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพในด้านคุณค่า รสชาติ และความปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบตลอดกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทและคู่ค้าธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ จึงได้กำหนดนโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน และแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ เพื่อส่งเสริมกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัท และคู่ค้าธุรกิจให้มีความสอดคล้องตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเสริมสร้างการเติบโตในระยะยาวไปด้วยกัน ตลอดจนเป็นโอกาสให้บริษัท และคู่ค้าธุรกิจมีส่วนร่วมปรับปรุง และพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยภาพรวม

สำหรับนโยบายและแนวปฏิบัติดังกล่าว ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ (Product and Service) ให้ความสำคัญและใส่ใจอย่างยิ่งในเรื่อง “คุณภาพและความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อาหาร” เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญต้นทางก่อนส่งมอบผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภค ด้านบุคลากร (People) ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติต่อบุคลากรอย่างเป็นธรรม และเคารพในสิทธิมนุษยชน ด้านกระบวนการผลิต (Process) ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยต้นทางและพื้นฐานของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร และด้านการดำเนินงาน (Performance) ยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และการปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำหนดแนวทางและแผนงานบริหารความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานระหว่างปี 2557-2562

นอกจากนี้ การส่งมอบนโยบาย และแนวปฏิบัติฯ ไปยังคู่ค้าธุรกิจถือเป็นภารกิจสำคัญ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของซีพีเอฟมีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน และมีขนาดใหญ่ ทำให้มีคู่ค้าธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานจำนวนมาก และหลากหลาย บริษัทจึงนำร่องส่งมอบนโยบายฯ ในกลุ่มคู่ค้าธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพ และความปลอดภัยอาหาร ตลอดจนมีความเกี่ยวข้องกับมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีหลักเกณฑ์และกระบวนการในการกำหนดคู่ค้าธุรกิจหลัก เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน ประกอบด้วย การวิเคราะห์การใช้จ่าย (Spend Analysis) มีปริมาณ หรือสัดส่วนธุรกรรมการจัดซื้อเป็นจำนวนมาก, การวิเคราะห์ความสำคัญ (Critical Analysis) เป็นผู้ส่งมอบวัตถุดิบหรือส่วนประกอบหลักที่สำคัญ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงต่อคุณภาพอาหาร และการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environment, Social and Governance : ESG Risk Analysis)

“ซีพีเอฟไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เพียงลำพัง คู่ค้าจึงเป็นพันธมิตรที่เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทางคนสำคัญที่ช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไป ดังนั้น การที่คู่ค้าได้นำแนวนโยบายนี้ไปปฏิบัติ จะทำให้ทั้งบริษัทและคู่ค้ามีการบริหารจัดการที่ดี (Good Governance) ได้รับการยอมรับในระดับสากล และสนับสนุนความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจ (Business Continuity) ทั้งของคู่ค้าธุรกิจ และบริษัท ขณะที่ผลในระยะยาวบริษัทเชื่อว่าการบริหารความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานเป็นหนึ่งในหนทางการเสริมสร้าง “ความมั่นคงทางอาหาร” ด้วยเงื่อนไขการผลิตอาหารที่มีคุณภาพอย่างพอเพียง และทั่วถึง บนพื้นฐานการดูแล และพัฒนาทรัพยากรบุคคล ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจากความมุ่งมั่นเหล่านี้จะสามารถผลักดันให้ซีพีเอฟก้าวสู่การเป็น “ครัวของโลก” ได้ในที่สุด นายวุฒิชัย กล่าว

สำหรับปีนี้ ซีพีเอฟตั้งเป้าสร้างการมีส่วนร่วมของคู่ค้าธุรกิจหลักครบ 100% โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีการจัดประชุมใหญ่ “Supplier Conference” เพื่อเชิญชวนคู่ค้าธุรกิจเข้ามารับฟังแนวทางปฏิบัติ และส่งมอบนโยบายจัดหาอย่างยั่งยืน และแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจอย่างเป็นทางการ พร้อมเตรียมจัด workshop จำนวน 10 ครั้ง ใน 5 ภูมิภาค ในช่วงไตรมาส 2-3 เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และส่งเสริมคู่ค้าในการประเมินความยั่งยืนของตนเอง (Self-Assessment) อันจะนำไปสู่การกำหนดแนวทางการวางแผนพัฒนาความยั่งยืนร่วมกันในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น