รพ.สิรินธร จัดทำป้ายคำแนะนำและซองยา 3 ภาษา ไทย - ลาว - อังกฤษ บริการประชาชนตามแนวชายแดนไทย - ลาว ช่วยให้เข้าใจวิธีกินยามากขึ้น เผยมีชาวลาวเดินทางเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 5 - 10 ราย
วันนี้ (14 มี.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสิรินธร อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ว่า โรงพยาบาลสิรินธรเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง และอยู่ในเขตสุขภาพที่ 10 อยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี 75 กิโลเมตร และห่างจากจุดผ่านแดนช่องเม็กสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 15 กิโลเมตร ทำให้เป็นเส้นทางในการค้าขายและท่องเที่ยว ดูแลประชากรประมาณ 55,000 คน มีผู้ป่วยลาวเข้ามารับบริการที่ รพ.สิรินธร ร้อยละ 7 ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ที่แผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มจาก 2,132 ราย ในปี 2555 เป็น 2,563 ราย ในปี 2557 และมีผู้ป่วยลาวที่อาการป่วยรุนแรง ส่งตัวมานอนพักรักษาเพิ่มขึ้นจาก 281 รายเป็น 490 รายในช่วงเดียวกัน โรคที่ส่งต่อมารับการรักษามาก ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง อุบัติเหตุที่ศีรษะ ตั้งครรภ์และคลอดบุตร กระทวงสาธารณสุข (สธ.) จึงมีนโยบายพัฒนาโรงพยาบาลสิรินธร ให้เป็นโรงพยาบาลชุมชนชายแดนชั้นนำเพื่อรองรับสุขภาพอาเซียน โดยพัฒนาศักยภาพการบริการให้มีความหลากหลาย อาทิ เพิ่มศักยภาพการผ่าตัด เช่น ไส้เลื่อน เปิดคลินิกแพทย์เฉพาะทาง เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่ตัวเมืองอุบลราชธานี ขณะเดียวกัน จัดตั้งศูนย์ส่งต่อระหว่างประเทศและประสานการทำงานร่วมกันกับโรงพยาบาลจำปาสักของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร ทำให้ผู้ป่วยทั้ง 2 ฝั่งได้รับการดูแลอย่างดี ทุกวันนี้มีชาวลาวเดินทางเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 5 - 10 ราย และในอนาคตมีแผนร่วมมือการพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินร่วมกัน อยู่ในระหว่างการจัดทำรายละเอียด
นพ.วชิระ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ รพ.สิรินธร ได้วางแผนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้ โดยจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ที่จำเป็น 3 จุดแก่ประชาชนที่มารับบริการ ได้แก่ ป้ายบอกทางไปโรงพยาบาล ป้ายแนะนำจุดบริการผู้ป่วย และป้ายชื่อโรงพยาบาล 3 ภาษา คือ ไทย ลาว และ อังกฤษ ขณะนี้ได้เริ่มใช้ในซองยาของผู้ป่วยแล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจวิธีการกินยาได้ถูกต้องตามคำแนะนำของเภสัชกร รวมทั้งพัฒนาบุคลากรของโรงพยาบาลด้านการสื่อสารให้พร้อมบริการผู้ป่วยในประชาคมอาเซียน ดำเนินการมาแล้ว 2 เดือนผลปรากฏว่าได้ผลดี เพิ่มความคล่องตัวการบริการผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น นอกจากนี้ ได้จัดระบบการเฝ้าระวังความปลอดภัยอาหาร ยา เครื่องสำอาง ที่ไม่ได้มาตรฐาน พบว่า มีผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 5 - 10 พบมากที่สุดคือ ขนมที่นำเข้าจากจีนและเวียดนาม ส่วนใหญ่ไม่มีฉลาก อย. จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายเช่น ศุลกากร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน อสม. และนักเรียน หรือ อย.น้อยโรงเรียน ผู้ประกอบการร้านค้า เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ เผยแพร่ความรู้ในการเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่มีมาตรฐานแก่ประชาชนไทย - ลาว พร้อมจัดทำระบบเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคติดต่อตามแนวชายแดน เช่น โรคคอตีบด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (14 มี.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสิรินธร อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ว่า โรงพยาบาลสิรินธรเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง และอยู่ในเขตสุขภาพที่ 10 อยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี 75 กิโลเมตร และห่างจากจุดผ่านแดนช่องเม็กสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 15 กิโลเมตร ทำให้เป็นเส้นทางในการค้าขายและท่องเที่ยว ดูแลประชากรประมาณ 55,000 คน มีผู้ป่วยลาวเข้ามารับบริการที่ รพ.สิรินธร ร้อยละ 7 ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ที่แผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มจาก 2,132 ราย ในปี 2555 เป็น 2,563 ราย ในปี 2557 และมีผู้ป่วยลาวที่อาการป่วยรุนแรง ส่งตัวมานอนพักรักษาเพิ่มขึ้นจาก 281 รายเป็น 490 รายในช่วงเดียวกัน โรคที่ส่งต่อมารับการรักษามาก ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง อุบัติเหตุที่ศีรษะ ตั้งครรภ์และคลอดบุตร กระทวงสาธารณสุข (สธ.) จึงมีนโยบายพัฒนาโรงพยาบาลสิรินธร ให้เป็นโรงพยาบาลชุมชนชายแดนชั้นนำเพื่อรองรับสุขภาพอาเซียน โดยพัฒนาศักยภาพการบริการให้มีความหลากหลาย อาทิ เพิ่มศักยภาพการผ่าตัด เช่น ไส้เลื่อน เปิดคลินิกแพทย์เฉพาะทาง เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่ตัวเมืองอุบลราชธานี ขณะเดียวกัน จัดตั้งศูนย์ส่งต่อระหว่างประเทศและประสานการทำงานร่วมกันกับโรงพยาบาลจำปาสักของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร ทำให้ผู้ป่วยทั้ง 2 ฝั่งได้รับการดูแลอย่างดี ทุกวันนี้มีชาวลาวเดินทางเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 5 - 10 ราย และในอนาคตมีแผนร่วมมือการพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินร่วมกัน อยู่ในระหว่างการจัดทำรายละเอียด
นพ.วชิระ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ รพ.สิรินธร ได้วางแผนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้ โดยจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ที่จำเป็น 3 จุดแก่ประชาชนที่มารับบริการ ได้แก่ ป้ายบอกทางไปโรงพยาบาล ป้ายแนะนำจุดบริการผู้ป่วย และป้ายชื่อโรงพยาบาล 3 ภาษา คือ ไทย ลาว และ อังกฤษ ขณะนี้ได้เริ่มใช้ในซองยาของผู้ป่วยแล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจวิธีการกินยาได้ถูกต้องตามคำแนะนำของเภสัชกร รวมทั้งพัฒนาบุคลากรของโรงพยาบาลด้านการสื่อสารให้พร้อมบริการผู้ป่วยในประชาคมอาเซียน ดำเนินการมาแล้ว 2 เดือนผลปรากฏว่าได้ผลดี เพิ่มความคล่องตัวการบริการผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น นอกจากนี้ ได้จัดระบบการเฝ้าระวังความปลอดภัยอาหาร ยา เครื่องสำอาง ที่ไม่ได้มาตรฐาน พบว่า มีผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 5 - 10 พบมากที่สุดคือ ขนมที่นำเข้าจากจีนและเวียดนาม ส่วนใหญ่ไม่มีฉลาก อย. จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายเช่น ศุลกากร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน อสม. และนักเรียน หรือ อย.น้อยโรงเรียน ผู้ประกอบการร้านค้า เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ เผยแพร่ความรู้ในการเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่มีมาตรฐานแก่ประชาชนไทย - ลาว พร้อมจัดทำระบบเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคติดต่อตามแนวชายแดน เช่น โรคคอตีบด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่