เพลิงไหม้คอกควายหวิดตายหมู่ ผวจ.นครพนมเข้มสั่งทุกอำเภอป้องกัน

นครพนม - เพลิงไหม้คอกควายหวิดตายหมู่ ปภ.นครพนมเตือนเผาป่า-ตอซังมีความผิด พ่อเมืองสั่งทุกอำเภอคุมเข้มหลังเกิดเหตุบ่อยครั้ง

วันนี้ (5 เม.ย.) สภ.เมือง จ.ครพนม รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนใน ต.โพธิ์ตาก จึงประสานรถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองญาติ อบต.บ้านผึ้ง และเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมกู้ภัยนครพนมไปสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้

ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยเยื้องโรงเรียนบ้านสุขเกษม พบควันพวยพุ่ง เพลิงกำลังลุกลามไหม้คอกเลี้ยงควายของนางธนาศรี โลสันตา วัย 35 ปี คนงานก่อสร้าง ก่อนลุกลามเข้าบ้านตนเอง เลขที่ 141 บ.สุขเกษม หมู่ 8 ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนคอกควายถูกเพลิงไหม้จนวอดเนื่องจากข้างคอกมีกองฟางซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี

เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด ใช้เวลานาน 30 นาทีเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบพบว่ามีรถไถนาเดินตาม 1 คัน ถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งคัน โชคดีที่กระบือที่ผูกเลี้ยงไว้ในคอก 5-6 ตัวถูกนำไปเลี้ยงในทุ่งนาเสียก่อน ขณะเกิดเหตุนางธนาศรีเจ้าของบ้านพร้อมสามีไปรับจ้างก่อสร้างในตัวเมือง ค่าเสียหายเบื้องต้น 50,000 บาท ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

นางวีระศักดิ์ วิเชียรแสน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.นครพนม กล่าวว่า ช่วงฤดูแล้งมักจะเกิดเหตุไฟลามทุ่งบ่อยครั้งเนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าวและแห้งแล้ง นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงมีนโยบายและทำหนังสือแจ้งสั่งการให้ทุกอำเภอ อบต.ทุกแห่งในพื้นที่เตรียมการป้องกันระวัง เตรียมพร้อมรถบรรทุกน้ำและรถดับเพลิงไว้ รวมทั้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประกาศทางหอกระจายข่าวทุกหมู่บ้าน

“ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุไฟลามทุ่งบ่อยครั้ง โดยเฉพาะชุมชนโพนบก หน้าสนามบินนครพนม เมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา จึงประสานไปทางจังหวัดทหารบกนครพนม ทำแนวกันไฟในพื้นที่จุดเสี่ยง รณรงค์ไม่ให้ชาวบ้านเผาตอซังข้าว หรือเข้าป่าไปหาของป่าแล้วลักลอบเผา อาจก่อปัญหาด้านมลพิษหมอกควัน ลุกลามบ้านเรือนประชาชน ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.กุดตาไก้ อ.ปลาปาก ต.โพธิ์ตาก และ ต.หนองญาติ อ.เมือง แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ จึงต้องเฝ้าระวังคุมเข้มแทน”