พิจิตร - รองประธาน สนช. พร้อมคณะกรรมาธิการเดินสายเปิดเวทีพบประชาชนที่พิจิตร ถกทางแก้น้ำท่วม-น้ำแล้งลุ่มน้ำยม เบื้องต้นไม่มีเสนอดันเขื่อนแก่งเสือเต้น แต่คนเมืองชาละวันชงสร้างประตูระบายน้ำ-คลองชลประทานพิษณุโลกฝั่งซ้ายแทน
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมาธิการหลายคณะ ได้เดินสายจัดประชุมตามโครงการ สนช.พบประชาชน ที่จังหวัดพิจิตร ช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ห้องประชุมของโรงแรมมีพรสวรรค์ จังหวัดพิจิตร โดยมีนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และตัวแทนผู้ว่าฯ จากพิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย แพร่ รวมถึงผู้นำท้องถิ่น และชาวพิจิตร เข้าร่วมกว่า 300 คน เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งเขตลุ่มน้ำยม
โดยได้ข้อสรุปว่าจะไม่มีการขับเคลื่อนให้สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น แต่ตัวแทนชาวพิจิตร ได้เสนอแนวทางการพัฒนาลุ่มน้ำยมด้วยการให้สร้างเขื่อน หรือประตูระบายน้ำท่าแหที่บ้านวังอีทก ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร, สร้างประตูระบายน้ำบ้านท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก, สร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร, สร้างประตูระบายน้ำที่บ้านโพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร
นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตัวแทนของจังหวัดพิจิตร ก็ได้เสนอแนวทางการก่อสร้างโครงการคลองชลประทานพิษณุโลกฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นพื้นที่ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน คือ สร้างคลองรับน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และแหล่งน้ำธรรมชาติอีกหลายจุดที่ไหลบ่ามาจากเทือกเขาวังทอง-เทือกเขาเพชรบูรณ์ ซึ่งมีการออกแบบ และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ถ้ามีงบประมาณมาก็สามารถลงมือทำได้เลย
นายวิชัยบอกว่า โครงการดังกล่าวจะทำให้เหมือนกับมีแม่น้ำขนาดใหญ่อีก 1 สายที่จะทอดยาวผ่านจาก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ต่อมาถึงเขตอำเภอสากเหล็ก, วังทรายพูน, ทับคล้อ, ตะพานหิน, บางมูลนาก จ.พิจิตร เชื่อมต่อยาวไปถึง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ไปสิ้นสุดที่บึงบอระเพ็ด ซึ่งถ้าทำได้จริงก็จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน ในเขต จ.พิจิตร รวมถึงจะทำให้พื้นที่ทำการเกษตรนับแสนไร่ได้มีน้ำทำการเกษตรอย่างเพียงพอ
ในส่วนของปัญหาด้านการเมือง นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ตอบว่า เรื่องการที่จะยุบ อบต. หรือ อบจ.นั้นยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งอยู่ในช่วงรับฟังความคิดเห็นและต้องทำเป็นร่างเข้าสู่ สนช. เช่นเดียวกับเรื่องจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นที่หมดวาระก็ยังหาความชัดเจนมาตอบไม่ได้ จะตอบได้อีกครั้งก็คงต้องเป็นต้นปี 2559 ส่วนในตำบลใดที่มีทั้ง อบต. และเทศบาลอยู่ในตำบลเดียวกัน มีโอกาสสูงมากที่จะยุบรวมเป็นเทศบาลตำบลเพียงอย่างเดียว