บุรีรัมย์ - ร.ร.ชุมชนบ้านหัววัว จ.บุรีรัมย์ ปรับพื้นที่ 16 ไร่ ทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน และชุมชน โดยให้นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการปลูกพืชผักปลอดสารพิษใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ทำเอง ใช้น้ำใต้ดินระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เลี้ยงปลาบ่อดิน และไก่ไข่ นำผลผลิตเป็นอาหารกลางวัน ที่เหลือส่งขาย พร้อมปลูกพืชผักฤดูแล้งขาย หารายได้ช่วงปิดเทอมช่วยครอบครัว
วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านหัววัว (ราษฎร์อุทิศ) จ.บุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 1 ได้จัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน และชุมชน และได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนนำร่องการสอนวิชาชีพการศึกษาภาคบังคับของเขตพื้นที่การศึกษา
โดยได้ปรับพื้นที่ 16 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของกรมทางหลวงที่ทางโรงเรียนทำหนังสือขอใช้ประโยชน์ มีระบบน้ำจากน้ำใต้ดินสูบขึ้นมาไว้บนถังสูงด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีภาคเอกชนสนับสนุนจัดทำให้ เดินท่อจ่ายไปตามแปลงต่างๆ ที่ปรับพื้นที่ให้ลาดลงเพื่อให้น้ำไหลลงไปตามท่อส่งน้ำได้ทั่ว และเก็บไว้ในบ่อพักน้ำทำให้มีน้ำเพียงพอที่จะปลูกพืชผลัดเปลี่ยนกันไปได้ตลอดทั้งปี
ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักเรียนรู้จักการพึ่งพาตนเอง โรงเรียนได้เขียนโครงการขอรับการสนับสนุนไปยังองค์กรต่างๆ ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาชนบท ให้ไก่ไข่ 200 ตัว พร้อมโรงเรือน มูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนา (EDF) และกองทุนโครงการอาหารกลางวันสนับสนุนการปลูกผักปลอดสารพิษ เพาะเห็ดและเลี้ยงปลาในกระชัง มีครู และนักเรียนรับผิดชอบแต่ละกิจกรรม
เมื่อได้ผลผลิตก็ส่งขายให้โครงการอาหารกลางวัน โดยผ่านสหกรณ์โรงเรียน ส่วนที่เหลือขายให้ชุมชน ทำให้มีเงินหมุนเวียนเลี้ยงตัวเองได้ นักเรียน และชุมชนก็ได้บริโภคพืชผักปลอดสารพิษ และนักเรียนยังมีรายได้เป็นเงินออมของแต่ละคนด้วย
และในปีนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ด ได้สนับสนุนงบประมาณสำหรับการปลูกไม้ผล ได้แก่ มะม่วง มะพร้าว มะนาว ไผ่ ลำไย สร้างโรงเรือนไว้ด้านหน้าติดถนน เพื่อจำหน่ายกิ่งพันธุ์ เพราะนอกจากจะปลูกไว้ในแปลงเพื่อเก็บผลผลิตแล้ว ยังขยายพันธุ์พืชต่างๆ ทั้งไม้ผล และไม้ประดับจำหน่ายแก่ผู้สนใจทั่วไป
ทั้งนี้ ในช่วงปิดภาคเรียน โรงเรียนได้ทำโครงการเกษตรฤดูแล้ง รับสมัครนักเรียนที่สนใจ และไม่ได้ติดตามผู้ปกครองไปทำงานในช่วงปิดเทอม มีนักเรียนประมาณ 15 คน มาทำงาน เริ่มปลูกไปแล้วคือ ผักชี ซึ่งในฤดูแล้งผักชีจะราคาแพง และกำลังเตรียมแปลงปลูกแตงโม กับฟักทองปลอดสารเคมี ซึ่งยอดฟักทองก็เป็นที่ต้องการ และขายได้ราคาดีเพื่อหารายได้ให้แก่เด็กนักเรียนได้แบ่งเบาภาระผู้ปกครองในช่วงปิดเทอมด้วย
ด้าน น.ส.เสริมสุข สังข์ทองรัมย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหัววัว (ราษฎร์อุทิศ) กล่าวถึงที่มาของโครงการว่า จุดเริ่มต้นของโครงการเกษตรในโรงเรียน มีที่มาจากโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการสถานศึกษาพอเพียง ซึ่งเป็นโครงการที่ดี และจะเกิดประโยชน์ในการเรียนรู้ของครู นักเรียน และชุมชน จึงตั้งใจว่าจะทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ เป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงพึ่งพาตนเองได้อย่างจริงจัง และยั่งยืน
อีกประการคือ โครงการอาหารกลางวัน ต้องซื้อซื้อวัตถุดิบทุกอย่างมาทำอาหารกลางวันให้นักเรียน ทางโรงเรียนมีความเป็นห่วงเรื่องสารเคมีตกค้าง จึงคิดว่าโครงการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงจะผลิตผลผลิตป้อนโครงการอาหารกลางวันเองได้
น.ส.เสริมสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ทำมาเข้าปีที่ 3 แล้ว ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ให้ครบวงจร ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ทั้งปลูกหญ้าแฝกขายให้สำนักงานพัฒนาที่ดิน ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ และเก็บปุ๋ยขี้ไก่ไว้ใช้ในแปลงเกษตร ฯลฯ
ผลที่ได้นอกจากทำให้นักเรียนได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย ได้เรียนรู้การทำงานเพื่อพึ่งพาตนเอง มีรายได้จากการทำงาน และยังทำให้นักเรียนส่วนหนึ่งเห็นประโยชน์จากอาชีพเกษตรกรรม และมุ่งศึกษาต่อสายอาชีพที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์
จึงขอเชิญชวนท่านที่สนใจ แวะเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่ด้านหน้าโรงเรียน หมู่ที่ 4 ถนนบุรีรัมย์-ประโคนชัย และสนับสนุนผลผลิตของนักเรียนได้ทุกวัน