บุรีรัมย์ - ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ ประชาชน และนักสะสม แห่นำงาช้างและผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้างในครอบครองมาขึ้นทะเบียนคึกคักรวมกว่า 1,250 ชิ้น ต่อหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ หลัง พ.ร.บ.งาช้างมีผลบังคับใช้ เพราะเกรงความผิดมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
วันนี้ (26 มี.ค. 58) บรรดาพ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ ประชาชน รวมถึงผู้นิยม และนักสะสมงาช้างในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทยอยนำงาช้างที่ยังเป็นกิ่งที่สมบูรณ์ รวมถึงที่แกะสลักแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เป็นเครื่องประดับตกแต่งที่สวยงาม และทำเป็นวัตถุมงคลต่างๆ ที่มีไว้ในความครอบครอง มาแจ้งขึ้นทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะเปิดให้บริการผู้มีงาช้างไว้ในครอบครองมาขึ้นทะเบียน ที่บริเวณสำนักงานป่าไม้จังหวัดอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีความผิดตามกฎหมาย หลัง พ.ร.บ.งาช้างมีผลบังคับใช้ตามที่ ครม.ได้มีมติให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไข เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้างาช้างข้ามชาติ โดยให้ผู้ครอบครองนำมาขึ้นทะเบียนภายใน 90 วัน หากผู้มีงาช้าง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์ได้เปิดให้ผู้ครอบครองงาช้างนำงาช้างมาขึ้นทะเบียนใน 3 อำเภอ มีอำเภอเมือง พุทไธสง และอำเภอสตึก อำเภอละ 1 วัน โดยขณะนี้ได้มีผู้นำงาช้าง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง ที่มีไว้ครอบครองจำนวน 65 รายมาแจ้งขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 1,250 ชิ้น ซึ่งคาดว่ายังมีผู้ครอบครองงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้างอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่นำมาขึ้นทะเบียน เนื่องจาก จ.บุรีรัมย์เป็นอีกจังหวัดที่มีผู้เลี้ยงช้างมากกว่า 200 เชือก ทางเจ้าหน้าที่จึงเตือนให้ผู้ครอบครองมาขึ้นทะเบียนภายในเวลาที่กำหนด หากไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.งาช้างดังกล่าวด้วย