ชัยนาท - ผู้นิยมเครื่องประดับทำจากงาช้างในชัยนาท แห่ขอขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้าง หลังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สระบุรี นำเจ้าหน้าที่ออกหน่วยบริการรับแจ้งการครอบครอง วันเดียวแห่กันมาขอขึ้นทะเบียนมากกว่า 100 ราย เจ้าหน้าที่ตรวจไม่ทัน ต้องเพิ่มวันให้บริการ 18 เม.ย.นี้
ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา นายเบ็งจะ ตรีสาร หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สาขาสระบุรี) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาออกหน่วยบริการประชาสัมพันธ์ และรับแจ้งการครอบครองงาช้าง ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 และรับแจ้งการครอบครองช้างแอฟริกา ผลิตภัณฑ์งาช้างแอฟริกา งาช้างแอฟริกา ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2557 ในท้องที่จังหวัดชัยนาท
โดยประสานกับผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท ในการให้บริการประชาชนรับแจ้งการครอบครองงาช้าง โดยมาให้บริการพิเศษเพียงวันที่ 21 วันเดียว หลังจากนั้น ผู้ที่มีงาช้างในครอบครองจะต้องเดินทางไปขอขึ้นทะเบียนที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 จังหวัดสระบุรี ทำให้ผู้ที่มีงาช้างในจังหวัดชัยนาท ต่างแห่มาขอขึ้นทะเบียนจนแน่นสำนักงานฯ วันเดียวมีมากกว่า 100 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่ที่รับขึ้นทะเบียนงานล้นมือตรวจสอบไม่ทัน จนต้องเพิ่มรอบให้บริการอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน 2558
นายเบ็งจะ ตรีสาร หัวหน้าชุดปฏิบัติการฯ กล่าวว่า คนจังหวัดชัยนาท ให้ความสนใจมาขอขึ้นทะเบียนเกินจากที่คาดการณ์ไว้มาก เพราะก่อนหน้านี้มีผู้แสดงความจำนงจะมาขึ้นทะเบียนประมาณ 10 รายเท่านั้น แต่พอมาแล้วกลับมีผู้มาขอขึ้นทะเบียนมากกว่า 100 ราย แต่เจ้าหน้าที่สามารถให้บริการได้เพียง 16 ราย เพราะแต่ละรายมีจำนวนงาช้างที่ครอบครองหลายชิ้นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบว่าเป็นงาแท้ หรืองาเทียม
“ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ครบทุกราย จึงต้องเพิ่มวันให้บริการอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายนนี้ และในการตรวจสอบงาช้างที่นำมาขึ้นทะเบียนครั้งนี้เป็นงาดิบ 13 กิ่ง น้ำหนักรวมประมาณ 50 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์งาแปรรูปอื่นๆ เช่น เม็ดลูกปัด หัวเข็มขัด ด้าม และฝักมีด เครื่องรางแกะสลักจากงา มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 10 กิโลกรัม ทั้งหมดเป็นงาช้างบ้าน เป็นงาเก่าที่ได้รับมรดกตกทอด ยังไม่พบว่ามีงาช้างแอฟริกามาแจ้งขึ้นทะเบียนครอบครอง” นายเบ็งจะ กล่าว