ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประชาชนแห่แจ้งการครอบครองงาช้าง และผลิตภัณฑ์งาช้าง หลังมี พ.ร.บ.การสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หากพ้นระยะเวลาที่กำหนดในวันที่ 21 เม.ย.นี้ จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง ปรับสูงสุด 6 ล้านบาท วอนประชาชนควรรีบมาดำเนินการโดยเร็ว
นายวิโรจน์ ทองอินทร์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จ.ชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558 ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ประชาชนที่มีงาช้าง หรือผลิตภัณฑ์งาช้าง หรือผู้ที่ค้างาช้าง จะต้องแจ้งการครอบครองให้แก่เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ เพื่อจัดทำทะเบียนการครอบครองให้ถูกต้องตามกฎหมาย
สาเหตุที่ต้องแจ้งการครอบครองในครั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) จึงมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องมีมาตรการควบคุมการค้า การครอบครอง การนำเข้า การส่งออก และการนำผ่านซึ่งงาช้าง หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากการแปรรูปงาช้างภายในประเทศมิให้ปะปนกับงาช้างที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นมาดูและควบคุม
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การประกาศดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.2558 และสิ้นสุดในวันที่ 21 เม.ย.2558 นี้ รวมระยะเวลา 90 วัน ซึ่งหลังจากวันเวลาดังกล่าวผู้ที่ครอบครอง และมีไว้เพื่อการค้าโดยไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบจะมีบทลงโทษที่รุนแรง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นนทบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และ จ.ตราด มาแจ้งที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้ทุกวันราชการ ตั้งแต่ 08.30-6.30 น.
ขณะนี้มีประชาชนเดินทางมาแจ้งการครอบครองงาช้าง และผลิตภัณฑ์งาช้างจำนวนมาก ล่าสุด มีทั้งสิ้นเกือบ 400 รายแล้ว โดยมีปริมาณงาช้างที่มาแจ้งน้ำหนักรวมกว่า 1,500 กิโลกรัม ซึ่งมีทั้งกิ่งงาช้างที่สมบูรณ์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้างนำมาขึ้นทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่จะต้องทำการวัดขนาด ชั่งน้ำหนักงาช้าง และถ่ายรูปภาพทั้ง 4 ด้าน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดของแต่ละราย
นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับข้อยกเว้นในการครอบครองงาช้างที่ไม่ผิดกฎหมาย ประชาชนสามารถครอบครองผลิตภัณฑ์เพื่อใช้สอยส่วนตัวในปริมาณจำกัด คือ ประเภทไม่เกิน 2 ชิ้นต่อคน รวมทุกประเภทไม่เกิน 4 ชิ้นต่อคน หรือรวมทั้งครัวเรือนไม่เกิน 12 ชิ้นต่อครัวเรือน แต่น้ำหนักไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม
ขณะนี้ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาในการแจ้งการครอบครองแล้ว ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 21 เม.ย.2558 นี้ หากพ้นกำหนด ผู้ครอบครองงาช้างจะถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนประเภทการค้างาช้างจะมีความผิดที่สูงกว่า คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือว่าโทษรุนแรงหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ หรือได้รับการร้องเรียน
ด้าน นายวิชัย ตรัสร่มเย็น ชาวบ้านจังหวัดตราด ที่นำงาช้างมาขึ้นทะเบียน กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากเพื่อนว่า ถ้าใครครอบครองงาช้างให้รีบมาขึ้นทะเบียนที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) โดยด่วน เพราะหากพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้วจะถูกลงโทษที่รุนแรงมาก ซึ่งตนมีงาช้าง 2 กิ่ง ที่ครอบครองมานานกว่า 50 ปีแล้ว จึงรีบนำมาขึ้นทะเบียนเพราะทราบว่าบทลงโทษแรงมาก จึงต้องรีบนำมาขึ้นทะเบียนดังกล่าวเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย