ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตสนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจเยี่ยมและประสัมพันธ์ร้านจำหน่ายงาช้างในภูเก็ต พร้อมกับพื้นที่อื่นๆ อีก 12 จังหวัดทั่วประเทศ ให้นำงาช้างที่ครอบครองขึ้นทะเบียนต่อกรมอุทยานฯ ให้ถูกต้องก่อน 21 เม.ย.นี้ ตามอนุสัญญาไซเตส เผยในภูเก็ตมีผู้นำงาช้างขึ้นทะเบียนแล้ว 7 งา โชว์ให้เห็นไทยป้องกันและปราบปรามการค้างาช้างตามสัญญาไซเตสอย่างจริงจัง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 มี.ค.) พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเมธี มีชัย ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า แทน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช น.ส.ภัทราพร ตัณฑ์พูนเกียรติ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาธุรกิจและการค้าภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเก็ต สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในพื้นที่ภูเก็ต ร่วมกันตรวจเยี่ยม และประชาสัมพันธ์โครงการขึ้นทะเบียนการครอบครองการค้างาช้างในพื้นที่ภูเก็ต ที่ร้านรอยัล พารากอน ภูเก็ต เลขที่ 888 หมู่ที่ 6 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทกระเป๋าหนังจระเข้ เครื่องประดับต่างๆ สินค้าดิวตี้ฟรี เครื่องประดับจากงาช้าง ผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอม เป็นต้น โดยมี นายวันชัย กองรุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไปให้การต้อนรับ และนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการการจำหน่ายเครื่องประดับที่ทำจากงาช้าง
สำหรับการตรวจเยี่ยม และประชาสัมพันธ์การนำงานช้างที่ครอบครองไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องนั้น เป็นการดำเนินการตามนโยบายของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปทส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกันทั้ง 12 จังหวัดทั่วประเทศ โดยภาคใต้ มีเพียงภูเก็ตจังหวัดเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส ที่กำลังถูกจับตามองอยู่ในขณะนี้
จากการตรวจสอบพบว่า ร้านดังกล่าวมีการจำหน่ายสินค้าที่เป็นงาช้าง โดยการแปรรูปเป็นเครื่องประดับ ประเภทสร้อยคอ สร้อยข้อมือ จี้ ตุ้มหู เป็นต้น โดยทางร้านได้ซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างดังกล่าวมาจากสินค้าโอทอปที่นำมาจัดแสดง และจำหน่ายตามงานต่างๆ รวมทั้งได้มีการขอจดทะเบียนเพื่อจำหน่ายสินค้าจากงาช้างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดต่อทาง อบต.ฉลอง เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากขณะนี้ทางสำนักงานพัฒนาธุรกิจและการค้า ได้โอนภารกิจการจดทะเบียนการค้าดังกล่าวให้แก่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้ว และทางพนักงานของร้านได้สอบถามถึงรายละเอียดการนำสินค้าที่เป็นทำมาจากงาช้างไปขึ้นทะเบียนต่อทางกรมอุทยานฯ และนโยบายการค้างาช้างของประเทศไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้อธิบายให้ทราบว่า ผู้ประกอบการและผู้ครอบครองงาช้าง รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากงาช้างจะต้องนำไปขึ้นทะเบียนต่อทางกรมอุทยานภายในวันที่ 22 ม.ค.-21 เม.ย.2558 นี้เท่านั้น และจะต้องเป็นงาช้างบ้าน เมื่อขึ้นทะเบียนต่ออุทยานแล้ว ถึงจะไปจดทะเบียนการค้างาช้างต่อสำนักงานพัฒนาธุรกิจฯ อีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงสำนักงานพัฒนาธุรกิจจังหวัดภูเก็ตในวันนี้ เป็นไปตามคำสั่งของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปทส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว ให้ดำเนินการออกตรวจเยี่ยม และทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ครอบครองงาช้าง นำงาช้างไปขึ้นทะเบียนต่อทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-21 เม.ย.2558 นี้ พร้อมกันทั้ง 12 จังหวัดทั่วประเทศ ในเวลา 10.00 น.วันนี้ ซึ่งรวมทั้งภูเก็ต เป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ ทั้งนี้ นอกจากเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการนำงาช้างที่ครอบครองไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องทั้งเพื่อการครอบครองทั่วไป และการครอบครองเพื่อการค้าแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส มีการดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามมาโดยตลอด ซึ่งทาง ศปทส.จะต้องรายงานผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้างาช้างป่าให้แก่ทางไซเตสได้รับทราบถึงความคืบหน้าในวันที่ 31 มี.ค.2558 นี้ด้วย
การดำเนินการตรวจเยี่ยม และประชาสัมพันธ์ดังกล่าวนั้น ผู้ที่ครอบครองงาช้างจะต้องไปขอขึ้นทะเบียนต่อทางกรมอุทยานฯ และเมื่อทางกรมอุทยานฯ รับรองแล้ว จะต้องไปจดทะเบียนต่อทางสำนักงานพัฒนธุรกิจการค้าเพื่อจำหน่ายงาช้างด้วย ซึ่งงาช้างที่จะครอบครองและจำหน่ายได้นั้นจะต้องเป็นงาช้างบ้านเท่านั้น ส่วนงาช้างป่าถือว่าผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.พีรยุทธ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบร้านรอยัล พารากอน ในวันนี้ ทางร้านดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด มีการจดทะเบียนการค้าที่ถูกต้อง และงาช้างที่จำหน่ายเป็นงาช้างแปรรูปที่ทางร้านซื้อมาจากงานโอทอป ทางเราจึงได้แนะนำให้ไปขึ้นทะเบียนต่อกรมอุทยานฯ และการซื้อผลิตภัณฑ์จากงานช้างมาจำหน่ายในครั้งต่อไปให้ซื้อกับร้านที่แจ้งการขึ้นทะเบียนต่ออุทยาน และมีการจดทะเบียนการค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ แจ้งว่า ขณะนี้ในพื้นที่ภูเก็ต ผู้ครอบครองงาช้างได้นำงาช้างบ้านมาขึ้นทะเบียนต่อทางกรมอุทยานแล้ว 7 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นงาช้างทั้งงา ซึ่งผู้ที่มีงาช้างสามารถนำไปขึ้นทะเบียนได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาพระแทว
