xs
xsm
sm
md
lg

“หม่อมปนัดดา” ตรวจแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ย้ำทำงานต่อเนื่องหวั่นวิกฤตระลอกสอง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าภาคเหนือ เบื้องต้นพอใจที่สถานการณ์คลี่คลายลงบางส่วนหลังมีฝนตกทำให้ค่าฝุ่นละอองลดลงไม่เกินค่ามาตรฐานแล้ว กำชับยังต้องทำงานจริงจังและเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรณรงค์ลดการเผา หวั่นเผชิญวิกฤตระลอกสอง


วันนี้ (24 มี.ค. 58) ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 เชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหามลพิษอากาศหมอกควันไฟป่าภาคเหนือ โดยประชุมหารือร่วมกับ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการดับไฟป่า และทำฝนหลวง รวมทั้งโปรยน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศโดยใช้อากาศยาน ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของหน่วยงานทหารและพลเรือน

ทั้งนี้ หม่อมหลวงปนัดดาเปิดเผยหลังการประชุมว่า เบื้องต้นได้ข้อสรุปร่วมกันว่าการแก้ไขปัญหานี้นอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำอยู่แล้ว จำเป็นจะต้องรณรงค์สร้างจิตสำนึกกันอย่างต่อเนื่องในการลดการเผาลง โดยยอมรับว่าการเผาเป็นวิถีชีวิตที่ยังสามารถทำได้ แต่จะต้องเป็นไปอย่างมีกฎระเบียบร่วมกัน ซึ่งจะต้องอาศัยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นกลไกสำคัญในการช่วยผลักดันขับเคลื่อนการรณรงค์ขอความร่วมมือการกำหนดพื้นที่และเวลาให้ชัดเจนเหมาะสม

ขณะเดียวกัน เน้นย้ำว่าการทำงานแก้ไขปัญหาที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำมาอย่างจริงจังตลอดช่วงที่ผ่านมา ทั้งหน่วยงานฝ่ายทหาร ฝ่ายพลเรือน รวมทั้งความช่วยเหลือสนับสนุนจากกองทัพสิงคโปร์ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปเช่นเดียวกัน โดยยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีวิกฤตปัญหาหมอกควัน ไฟป่าในระลอกเกิดขึ้นตามมา เพราะปกติทุกปีการเผาในพื้นที่ต่างๆ จะยุติกันไปหลังสงกรานต์แล้ว

ทั้งนี้ ข้อสรุปต่างๆ ที่ได้จากการประชุมครั้งนี้จะมีการจัดทำเป็นแผนกลยุทธ์และแผนดำเนินงานรายงานนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันศุกร์นี้

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าต้นเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของปัญหาหมอกควัน ไฟป่าเกิดขึ้นจากการเผาในพื้นที่เกษตรที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเกษตรเข้าไปส่งเสริมการผลิตและรับซื้อนั้น หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า ไม่อยากให้มีการปรักปรำกันเช่นนั้น โดยแง่หนึ่งต้องยอมรับว่าการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องมีการพูดจาถ้อยทีถ้อยอาศัยกันให้เกิดความเข้าใจที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ หม่อมหลวงปนัดดาระบุว่า การใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหานี้ทำได้ผลแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ขณะที่การสร้างจิตสำนึกน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีและได้ผลมากกว่า ซึ่งทุกจังหวัดต่างเห็นตรงกัน รวมทั้งจะมีการใช้ประสบการณ์ที่ได้ในปีนี้เพื่อวางแนวทางในการป้องกันแก้ไขปัญหาที่ได้ผลมากขึ้นในปีถัดไป ส่วนกรณีการเผาที่มีมากในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านนั้นจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการตามความเหมาะสม

สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์ปัญหาในปีนี้มีความรุนแรงมากที่สุดนั้น หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนรายงานและยอมรับว่ามีสถานการณ์รุนแรงกว่าจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นแอ่ง ประกอบกับมีควันจากการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีเขตติดต่อกันเป็นระยะทางยาวหลายร้อยกิโลเมตรถูกพัดเข้ามา ทั้งนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือปีนี้ จะมีการพิจารณาต่อไปถึงความเป็นไปได้ในการจัดสรรงบประมาณเพิ่มมากขึ้นสำหรับการรณรงค์และเพิ่มกำลังคนในการป้องกันแก้ไขปัญหาในปีต่อไปให้ได้ผลมากขึ้น

สำหรับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่วันนี้ ดีขึ้นหลังจากที่มีฝนตกวานนี้ และวันนี้ โดยพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 ไม่สูงเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 57 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 61 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร



กำลังโหลดความคิดเห็น