xs
xsm
sm
md
lg

พบกระทิงป่ากุยบุรีตายอีก 1 ตัว กรมอุทยานฯ ส่งสัตวแพทย์เก็บชิ้นเนื้อพิสูจน์พรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - จนท.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พบกระทิงตัวผู้ขนาดใหญ่ตายในพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หวั่นเป็นโรคปากเท้าเปื่อยระบาดระลอก 2 หลังพบอุทยานแห่งชาติกุยบุรี บูมท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า ช้าง และกระทิง กรมอุทยานฯ เตรียมส่งสัตวแพทย์เก็บชิ้นเนื้อเข้าห้องแล็บพิสูจน์พรุ่งนี้

วันนี้ (24 มี.ค.) นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีออกตรวจพื้นที่ไปถึงบริเวณจุดพิกัด 47P0570088E 1342990N ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้พบซากกระทิงเพศผู้ อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี

เบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 วัน ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะได้รับเชื้อปากเท้าเปื่อย และขาดอาหารเนื่องจากความแห้งแล้ง เนื่องจากที่ผ่านมา เคยพบกระทิงตัวนี้หากินอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี ทั้งนี้ จุดที่พบซากกระทิงเรียกว่าบ่อลูกรัง อยู่ใกล้ก่อนทางออกสู่ชุมชน และบริเวณดังกล่าวอยู่ไม่ห่างจากจุดตรวจห้วยลึก ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมช้าง และชมกระทิง

นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จัดหาน้ำแข็งมาใส่ซากกระทิงเอาไว้ก่อนเพื่อให้ซากสัตว์มีความเย็นป้องกันแมลงวันมาตอมซาก และใช้พลาสติกคลุมทับซากเอาไว้ โดยในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.) สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติฯ และสัตวแพทย์มหาลัยมหิดล จะมาทำการผ่าพิสูจน์เพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจผลในห้องแล็บต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กระทิงที่ตายเกิดจากการได้รับเชื้อปากเท้าเปื่อยหรือไม่อย่างไร

“ที่ผ่านมา ทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมสัตว์ป่า เมื่อปีที่ผ่านมา โดยรถยนต์ที่เข้าไปรวมจะต้องผ่านจุดที่จะต้องฆ่าเชื้อด้วยน้ำยา อย่างไรก็ตาม จะมีการปิดการท่องเที่ยวอีกหรือไม่ก็ต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากสัตวแพทย์ก่อน ซึ่งเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ปลายปีก็มีกระทิงในผืนป่าดังกล่าวตายถึง 30 ตัว จากปี 2556 จนถึงปัจจุบันนี้” นายวัฒนา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น