ฉะเชิงเทรา - ตำรวจเมืองแปดริ้ว โชว์ผลงานรวบขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติครั้งมโหฬารได้ของกลางเกือบ 1 ตัน มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท พร้อมขยายผลยึดเพิ่มอีกกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลขนส่งกัญชาเข้าเมืองกรุงมีมากถึงสัปดาห์ละ 2 ตัน
วันนี้ (18 มี.ค.) พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พร้อม พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.สัมพันธ์ เบญจศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ได้ร่วมกันนำผู้ต้องหา 4 คน
ประกอบด้วย นายวินัย แสงกล้า อายุ 40 ปี นายยงยุทธ์ บ้านแสน อายุ 30 ปี นายประพิศ ดุจดา อายุ 35 ปี และนายจำปา มาลุน อายุ 32 ปี ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยมีของกลางกัญชาอัดแท่งรวม 800 กิโลกรัม รถยนต์ จำนวน 8 คัน ทองคำแท่งน้ำหนักรวม 90 บาท โฉนดที่ดินจังหวัดอุดรธานี 31 ไร่ มูลค่า 4 ล้านบาท และเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท
พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่สามารถจับกุมขบวนการผู้ค้ากัญชารายใหญ่ได้ในครั้งนี้ ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 20 ล้านบาทได้ ทั้งยังขยายผลจับกุมไปจนถึงผู้ร่วมขบวนการรายใหญ่ได้ทั้งหมด และยึดทรัพย์สินได้มากถึง 10.9 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยจับกุมผู้ค้าฝิ่นรายใหญ่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา จนได้ของกลางรวม 21 กิโลกรัม มูลค่า 14.7 ล้านบาท และยึดทรัพย์สินรวม 12.9 ล้านบาท เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า เป็นการจับกุมขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติรายใหญ่ ที่เกิดจากการขยายผลการจับกุมตัวผู้เสพกัญชารายย่อยในพื้นที่ จนสามารถจับกุมผู้ขายคือ นายสำราญ มากสมบูรณ์ อายุ 44 ปี ชาวอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ด้วยการล่อซื้อกัญชาหนัก 1 กิโลกรัม ก่อนนำตัวไปค้นที่บ้านพักในตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กระทั่งพบของกลางกัญชาอัดแท่งอีก 52 กิโลกรัม
ภายหลังการสืบสวนขยายผลเจ้าหน้าที่ยังทราบว่า กัญชาที่ถูกนำเข้ามาขาย และแพร่กระจายในพื้นที่ภาคตะวันออก และปริมณฑล เป็นเครือข่ายจากจังหวัดอุบลราชธานี ที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงวางแผนจับกุมจนสามารถรวบเครือข่ายได้ทั้งขบวนการ
โดยตั้งข้อกล่าวหาต่อ นายสำราญ มากสมบูรณ์ ผู้ต้องหารายแรกที่ได้สอบสวนดำเนินคดี และยื่นคำร้องส่งศาลฝากขังไปแล้วว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 ราย ที่เพิ่งจับกุมตัวได้ ตั้งข้อกลาวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขบวนการดังกล่าวได้ขนส่งกัญชามาจากชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อส่งขายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออก สัปดาห์ละ 2 เที่ยว โดยจะขนส่งครั้งละ 1 ตัน