ลำปาง - ยายวัย 75 ปีร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม หลังที่ ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่โดยชอบร่วม 20 ไร่ วันนี้กลับกลายเป็นพื้นที่ป่า เหลือทำกินได้เพียง 4 ไร่ ขณะที่ ส.ป.ก.อ้างเป็นความคลาดเคลื่อนของแผนที่ โยนป่าไม้รับผิดชอบ
วันนี้ (12 ก.พ.) นางสมัย ปานทอง อายุ 75 ปี ชาวบ้าน ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง หอบหลักฐานการครอบครองที่ดินของตัวเองเข้าร้องทุกข์ และขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ดำรงธรรม จ.ลำปาง ว่าหลังได้รับมรดกจากสามีซึ่งเป็นทหารผ่านศึกที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2549 เป็นที่ดินทำกินตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 จำนวน 17 ไร่ 2 งาน 45 ตารางวา แต่ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ระบุว่าที่ดินที่อยู่ในเขต ส.ป.ก.ทำกินได้มีเพียง 4 ไร่เท่านั้น
คุณยายสมัยเปิดเผยว่า ทางราชการได้มอบที่ดินให้สามีทำกินหลังกลับจากการรบที่เวียดนาม โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกเอกสารให้อย่างถูกต้อง จากนั้นตนกับสามีก็เข้าทำประโยชน์มาตลอด ตอนแรกก็ลงไม้ผล ปลูกข้าว มะขาม ลิ้นจี่ ข้าวโพด แต่ไม่ค่อยได้ผลขาดทุน จนสุดท้ายก็ปลูกต้นสักไว้ พอสามีเสียตนก็มีอายุมากขึ้น กระดูกสันหลังผุ ลูกก็ไม่มีงานทำ จึงไปรับจ้างหาเงินไปวันๆ จนเป็นหนี้เป็นสิน
เมื่อเห็นเพื่อนบ้านที่มีสวนติดกันเคยตัดไม้ขายได้ ตนจึงต้องการตัดไม้ในสวนของตน ซึ่งบางส่วนโตแล้วเพื่อนำไปขายเอาเงินมาใช้จ่ายและใช้หนี้ เพราะปัจจุบันก็ทำงานไม่ได้แล้ว จึงได้ไปปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอ ได้รับคำแนะนำให้ไปขึ้นทะเบียนสวนป่า ขอใบตราค้อน ตนก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้
หลังรอมา 3 เดือนเรื่องยังเงียบจึงได้ไปติดตาม เจ้าหน้าที่กลับนำเอกสารมาคืน และบอกว่าที่ดินของตนที่เคยมีกว่า 17 ไร่เหลือเพียง 4 ไร่เท่านั้นที่อยู่ในเขต ส.ป.ก.4-01 ที่เหลือเป็นพื้นที่ป่า จึงอนุญาตให้ตัดไม้ไม่ได้ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะขายไม้ก็ขายไม่ได้ จึงได้นำเรื่องเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากเห็นว่าที่ดินที่ตนและสามีเคยทำมาหากินมากว่า 20 ปีได้รับมาโดยถูกต้อง ลงทุนปลูกต้นสักไปจำนวนมาก แต่ทำไมถึงกลายเป็นพื้นที่ป่า และห้ามไม่ให้ตนเข้าทำมาหากินในที่เดิมอีก
ล่าสุดนายกันณ์ คำหมู่ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดลำปาง ได้มีหนังสือตอบกลับไปยังผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีการตรวจสอบเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ถูกต้องหรือไม่ว่า เอกสาร ส.ป.ก. 4-01 ที่นางสมัยครอบครองอยู่นั้นเป็นเอกสารที่ตรงกับที่ทางราชการออกให้จริง และถูกต้องตามระเบียบหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก. แต่กลับระบุในรายละเอียดของที่ดินว่าเป็นความคลาดเคลื่อนของแผนที่ เพราะเป็นพื้นที่คาบเกี่ยว เขต ส.ป.ก.มีเพียง 4 ไร่ 1 งาน 28 ตารางวา ส่วนที่เหลือคือพื้นที่ของป่าไม้
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องแล้วจึงได้พาคุณยายสมัยไปพบกับนายยงยุทธ์ แสงโชติ นายช่างสำรวจอาวุโส ผอ.กลุ่มงานช่างและแผนที่ โดยนายยงยุทธ์ ได้ให้ดูแผนที่จากคอมพิวเตอร์ ระบุว่าเอกสารดังกล่าวที่ออกให้ถูกต้อง แต่สมัยก่อนการวัดแผนที่ไม่ละเอียดเท่ากับสมัยนี้ ทำให้การคำนวณต่างๆ ผิดพลาด ดังนั้นเมื่อแผนที่ฉบับนี้ระบุว่าพื้นที่ ส.ป.ก.มีเพียง 4 ไร่ ส.ป.ก.ก็เข้าไปดูแลได้เพียง 4 ไร่ นอกเหนือจากนั้นก็คงต้องให้ป่าไม้ดำเนินการเท่านั้น
และเมื่อสอบถามถึงการเยียวยาผู้บริสุทธิ์ที่ได้การครอบครองโดยถูกต้องตั้งแต่แรก รวมถึงการเข้าไปทำกินและลงทุนไปกับพื้นที่ดังกล่าว ส.ป.ก.ซึ่งเป็นผู้ออกเอกสารดังกล่าวให้จะทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ตอบเพียงว่าอยู่นอกเหนืออำนาจของ ส.ป.ก. คงต้องให้ป่าไม้เป็นผู้ดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมจะได้นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อช่วยเหลือ และแก้ปัญหาให้แก่คุณยายสมัยต่อไป